ผู้ให้บริการที่คุ้นชื่อในวงการ Forex อย่าง HFM ดีไหม? ด้วยการเติบโตของตลาด Forex ในประเทศไทยที่ก้าวกระโดด ทำให้ผู้ให้บริการจากต่างประเทศรายใหญ่เริ่มเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยมากขึ้น
ซึ่งนั่นรวมไปถึง HFM ที่อยู่ในเครือของ HF Markets กลุ่มการเงินรายใหญ่ที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เข้ามาให้บริการคนไทยอีกด้วย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโบรกเกอร์ HFM กันให้มากขึ้น
โบรกเกอร์ HFM คือ อะไร?
HFM หรือชื่อเต็มคือ HF Markets เป็นผู้ให้บริการซื้อขาย Forex และสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น คริปโตเคอร์เรนซี และตราสารหนี้
HFM ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศไซปรัส ปัจจุบันมีอายุการให้บริการมากกว่า 10 ปีแล้ว HFM เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินชั้นนำในหลายประเทศ
สำหรับในปัจจุบัน พวกเขามีหน้าตาของเว็บไซต์เหมือนกับ HF Markets รวมไปถึงแพลตฟอร์มในการเทรดที่ใช้เหมือนกันด้วย การสมัคร หรือ การลงทะเบียนต่าง ๆ จะมีรูปแบบที่เหมือนกัน
HFM ดีไหม
ผู้ให้บริการซื้อขาย CFD หรือ Forex นั้น แต่ละโบรกเกอร์มีข้อดี กับ ข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยพวกเราได้รวบรวมจุดเด่น กับข้อเสียเปรียบที่ทำให้เทรดเดอร์ตัดสินใจเกี่ยวกับการไว้ใจในการลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็นข้อดี และ ข้อเสียของโบรกเกอร์ HFM ได้ดังนี้
ข้อดี โบรกเกอร์ HFM
ในส่วนของข้อดีของ HFM มีจุดเด่นที่น่าสนใจ พร้อมขอแนะนำด้วยกันหลายประการ โดยจะขอแบ่งออก 8 เป็นข้อย่อยให้เข้าใจง่ายดังนี้
-
ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์
HFM ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินชั้นนำในหลายประเทศ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร, Cyprus Securities & Exchange Commission (CySEC) ของไซปรัส และอื่นๆ อีกหลายแห่ง ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง
-
เงื่อนไขการเทรดที่เอื้อต่อเทรดเดอร์ทุกท่าน
HFM มีค่าสเปรดต่ำ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20.40 Point / 1 Lot สำหรับคู่เงินหลัก นอกจากนี้ยังไม่มีค่า Swap ในหลายสินทรัพย์ เช่น EURUSD, GBPUSD, USDJPY, ทองคำ และน้ำมัน ทำให้เหมาะกับการถือสถานะข้ามคืน
-
แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย
HFM มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกใช้หลากหลาย ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแอป HFM ที่พัฒนาขึ้นเอง ทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะกับตัวเองได้
-
สร้างบัญชีการเทรดง่ายไม่กี่ขั้นตอน
การสมัครเปิดบัญชีกับ HFM ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถทำได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
-
ผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย
HFM มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 2,000 ตัว ครอบคลุม 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ Forex, คริปโตเคอร์เรนซี, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ตราสารหนี้ และ ETF
-
ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน ถอนเงินผ่านธนาคารไทย
HFM ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงินผ่านธนาคารไทย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม
-
ฝากเงินสะดวกผ่านทาง QR Code
สามารถฝากเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่าน QR Code โดยรองรับทุกธนาคารในประเทศไทย
-
ระบบการสนับสนุนช่วยเหลือเยี่ยม
มีการให้บริการเป็นภาษาไทยผ่านช่องทาง Live Chat รวมทั้งการโทรศัพท์มาสอบถาม และแนะนำโปรโมชั่นโดยเจ้าหน้าที่คนไทย
ข้อเสีย โบรกเกอร์ HFM
แม้ HFM จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณา ซึ่งได้แบ่งออกเป็นข้อย่อยง่าย ๆ** ด้วยกัน 4 ข้อดังนี้**
- ค่า Spread ค่อนข้างสูง
แม้ HFM จะโฆษณาว่ามีค่าสเปรดต่ำ แต่เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆแล้ว ค่าสเปรดของ HFM ยังถือว่าค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในสินทรัพย์อย่าง Forex, ทองคำ และ Bitcoin
- โปรโมชั่นที่แสดงหน้าเว็บไซต์ไม่ชัดเจน
โปรโมชั่นและโบนัสต่างๆของ HFM ไม่ได้แสดงอย่างชัดเจนบนหน้าเว็บไซต์ ทำให้ผู้ที่สนใจอาจไม่ทราบถึงข้อเสนอพิเศษต่างๆ
- โปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่ต้องฝากเงินขั้นต่ำค่อนข้างสูง
โปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่ของ HFM มักจะต้องฝากเงินขั้นต่ำที่ค่อนข้างสูง เช่น $500 ซึ่งอาจไม่เหมาะกับมือใหม่ที่มีทุนน้อย
- เว็บไซต์ยังไม่มีภาษาไทยให้บริการเต็มรูปแบบ
แม้ HFM จะมีการให้บริการเป็นภาษาไทย แต่เว็บไซต์หลักยังไม่มีภาษาไทยให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ อาจทำให้ผู้ใช้บางส่วนไม่สะดวกในการใช้งาน
ความน่าเชื่อถือของ โบรกเกอร์ HFM
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของโบรกเกอร์เลยก็คือ ความน่าเชื่อถือที่พวกเขานั้นมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กับชื่อ HF Markets อีกทั้งยังมีการกำกับดูแลมากถึง 9 ใบอนุญาต โดยมี 2 ใบอนุญาตอยู่ในระดับชั้นนำจากอังกฤษ และโปแลนด์ด้วย โดยพวกเขาได้สร้างคะแนนความน่าเชื่อถือเอาไว้ดังนี้
ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex
HFM ก่อตั้งเมื่อปี 2010 พวกเขาเปิดให้บริการมามากกว่า 10 ปีแล้ว และไม่เคยมีข่าวเสียหาย
ใบอนุญาต HFM / คะแนน Trust pilot
ทางด้านใบอนุญาต พร้อมทั้งการกำกับดูแล ที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่ามีหน่วยงานที่กำกับดูแลชั้นนำของโลกถึง 9 ใบ และ มี 2 ใบอนุญาตที่อยู่ในระดับชั้นนำของโลก ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร
- Cyprus Securities & Exchange Commission (CySEC) ของไซปรัส
- Dubai Financial Services Authority (DFSA) ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- Financial Sector Conduct Authority (FSCA) ของแอฟริกาใต้
- Mauritius’ Financial Services Commission (FSC) ของมอริเชียส
- Financial Services Authority Seychelles (FSA Seychelles) ของเซเชลส์
- FINANCIAL SERVICES AUTHORITY Saint Vincent & The Grenadines (SVGFSA) ของเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
- Capital Markets Authority (CMA) ของเคนยา
สำหรับใบอนุญาตทั้ง 9 ใบ ทำให้การันตีได้ว่า HFM นั้นมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งการกำกับดูแลในหลายประเทศ ทำให้พวกเขาเป็นโบรกเกอร์ระดับ Top เลยทีเดียว
คะแนนจาก Google Play
นอกจากนี้ HFM ยังได้รับคะแนนรีวิว 3.5 ดาว จากผู้รีวิวกว่า 6,000 คนบน Google Play และมียอดดาวน์โหลดแอปมากกว่า 1 ล้านครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและความไว้วางใจจากผู้ใช้งานจำนวนมาก
ผู้เข้าชมเว็บต่อเดือน
HFM มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ถึง 192,000 ครั้งต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจและแสดงถึงความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก
Scam และข่าวด้านการโกง / การตุกติก
หลังจากที่ค้นหาข่าวด้านการโกง หรือ การตุกติกของ HFM พบว่าไม่มีข่าวเสียหายร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับการโกงหรือตุกติก อย่างไรก็ตาม มีการรีวิวในเชิงลบบ้างเกี่ยวกับปัญหาการถอนเงิน แต่ส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขโดยทีมสนับสนุนของ HFM
ประเภทบัญชี HFM
ประเภทบัญชีของ HFM มีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย โดยจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- บัญชี CENT
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนน้อยและต้องการฝึกเทรด
- ใช้สกุลเงินในหน่วย Cent
- ไม่มีค่าคอมมิชชัน
- ค่า Spread เริ่มต้นที่ 1.2 Pips
- บัญชี PREMIUM
- ไม่มีค่าคอมมิชชัน
- ค่า Spread เริ่มต้นที่ 1.2 Pips
- เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป
- บัญชี PRO
- ไม่มีค่าคอมมิชชัน
- ค่า Spread เริ่มต้นที่ 0.5 Pips
- ยอดฝากขั้นต่ำ 3,300 บาท
- เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
- บัญชี ZERO
- ค่า Spread เริ่มต้นที่ 0 Pips สำหรับ Forex และทองคำ
- มีค่าคอมมิชชัน
- ไม่มียอดฝากขั้นต่ำ
- เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการค่า Spread ต่ำที่สุด
- บัญชี TOP-UP BONUS
- ได้รับโบนัสจากทุกๆการฝากเงิน
- โบนัส 100% สำหรับการฝากเงินครั้งแรก
- โบนัส 50% สำหรับการฝากเงินครั้งต่อๆไป
ภาพรวมจากการทดสอบโบรกเกอร์
สำหรับการเทรดของโบรกเกอร์ HFM นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะให้ใช้แพลตฟอร์มของทางผู้ให้บริการเอง โดยหน้าตาของแพลตฟอร์มนั้นใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถฝาก หรือ ถอนเงิน ผ่านช่องทางนี้ได้เลย มีราคาของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน รวมไปถึงค่าสเปรดที่ระบุในขณะนั้น โดยภาพรวมในการเทรดดังนี้
ความลื่นไหลในการเทรด
เรียกได้ว่ามีความลื่นไหลในการเทรดพอสมควร บางท่านที่ใช้งาน MT4 / MT5 มาก็จะพบประสบการณ์ใหม่อย่างแพลตฟอร์มเทรดของ HFM อย่าง xStation 5 เพราะกราฟมองง่าย แท่งเทียนมีความลื่นไหล เมื่อทดสอบการซื้อ-ขาย พบว่าคำสั่งรวดเร็วมีเส้นราคาบอกชัดเจนว่า เข้าซื้อในราคาใด ไม่ต้องปรับอะไรเพิ่ม
Requotes (รีโควต) บ่อยไหม
ปัญหาเรื่องการรีโควตนั้นพบได้บ่อย ๆ สำหรับทุกโบรกเกอร์ หลังจากที่โทรสอบถามกับทางผู้ให้บริการแล้วนั้น ถ้ามีการซื้อขายที่รุนแรงในช่วงนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าในช่วงที่ตลาดไม่มีการเคลื่อนไหวมาก ราคาที่ตั้งเอาไว้จะค่อนข้างแม่นยำ
กราฟค้างบ่อยไหม / ลากไส้เทียนมากิน stop loss บ่อยไหม
ปัญหาเรื่องกราฟค้าง สำหรับในช่วงเวลาปกติยังไม่พบ แต่ช่วงการประกาศตัวเลขข่าวเศรษฐกิจรุนแรง หรือ ช่วงตลาดทางฝั่งอเมริกาเปิดจะมีวอลลุ่มการซื้อขายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการตั้ง Stop loss ไว้สั้น ๆ ก็อาจจะถูกลากมาชนแล้วเด้งกลับได้ แต่หลังจากที่มีการสอบถามผู้ให้บริการพบว่า โบรกเกอร์อิงตามราคากลาง ไม่มีการปรับราคาเองแต่อย่างใด
Slippage บ่อยไหม
ปัญหา Slippage ควรระวังในช่วงการประกาศตัวเลขข่าวเศรษฐกิจช่วงหัวค่ำของทุกวัน แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้มักจะไม่พบปัญหานี้ หรือ มีการรายงานเข้ามาทางโบรกเกอร์ แต่เหตุการณ์นี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรระวังเอาไว้ในช่วงที่มีข่าวรุนแรงจะดีกว่า
ระดับ Stop out
การ Stop Out จะเกิดขึ้นเมื่อระดับของมาร์จิ้น ต่ำกว่า 20% สำหรับทุกประเภทบัญชี
บัญชี HFM แบบไหนดี
การเลือกบัญชีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและประสบการณ์ของแต่ละคน:
- บัญชี CENT: เหมาะสำหรับมือใหม่ที่มีทุนน้อยและต้องการฝึกเทรด
- บัญชี PREMIUM: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไปที่ต้องการค่า Spread ที่แคบและไม่มีค่าคอมมิชชัน
- บัญชี PRO: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และต้องการค่า Spread ที่แคบกว่าบัญชี PREMIUM
- บัญชี ZERO: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการค่า Spread ต่ำที่สุดและยอมรับการจ่ายค่าคอมมิชชันได้
- บัญชี TOP-UP BONUS: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการได้รับโบนัสจากการฝากเงิน
HFM โบนัสและเงื่อนไข
HFM มีโบนัสและโปรโมชันที่น่าสนใจหลายรายการ เช่น:
- โบนัสเงินฝาก 100% สำหรับการฝากครั้งแรก สูงสุด 3,600 บาท
- โบนัส 20% สำหรับการฝากครั้งถัดไป ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมกันสูงสุด 180,000 บาท
- โปรแกรม Loyalty ที่ให้ผู้ใช้สะสมคะแนนเพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
- การแข่งขันเทรดรายเดือนทั้งบัญชีจริงและบัญชีทดลอง
Platform ที่ใช้งาน
HFM มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกใช้หลากหลาย ได้แก่:
- MetaTrader 4 (MT4)
- MetaTrader 5 (MT5)
- แอป HFM
แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นและฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดและความต้องการ
การฝาก-ถอน โบรกเกอร์ HFM
HFM มีช่องทางการฝากและถอนเงินที่หลากหลายและสะดวก:
- ฝากเงินผ่าน QR Code (รองรับทุกธนาคารในประเทศไทย)
- โอนเงินผ่านธนาคาร
- บัตรเครดิต/เดบิต
- E-Wallets เช่น Skrill, Neteller
- Cryptocurrency
การฝากเงินส่วนใหญ่จะเข้าบัญชีทันที ส่วนการถอนเงินใช้เวลาประมาณ 2 วันทำการ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงินผ่านธนาคารไทย
HFM ติดต่อเจ้าหน้าที่
รายละเอียดที่ส่งผ่านอีเมลก็เข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อผ่านช่องทางอื่นๆ ได้แก่:
- โทรศัพท์: 025060095
- อีเมล: [email protected]
- โซเชียลมีเดีย: X, Telegram, Instagram, YouTube, LinkedIn
สรุป HFM ดีไหม
สำหรับโบรกเกอร์ HFM นั้นถือเป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจมาก เนื่องจากมีจุดเด่นหลายประการ:
- ความน่าเชื่อถือสูง: HFM ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินชั้นนำในหลายประเทศ รวมถึงใบอนุญาตระดับ 1 อย่าง FCA ของสหราชอาณาจักร ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง
- แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย: มีทั้ง MT4, MT5 และแอป HFM ให้เลือกใช้ตามความถนัด
- ผลิตภัณฑ์การเทรดที่ครอบคลุม: มีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 2,000 ตัว ครอบคลุมทั้ง Forex, คริปโตเคอร์เรนซี, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ
- ไม่มีค่า Swap ในหลายสินทรัพย์: เหมาะสำหรับการถือสถานะข้ามคืน
- โบนัสและโปรโมชันที่น่าสนใจ: มีโบนัสเงินฝากและโปรแกรม Loyalty ที่ให้ผลตอบแทนแก่ลูกค้า
- การฝากถอนที่สะดวก: มีหลายช่องทาง รวมถึงการฝากผ่าน QR Code และไม่มีค่าธรรมเนียมผ่านธนาคารไทย
- การสนับสนุนลูกค้าที่ดี: มีทีมงานคนไทยคอยให้บริการ และสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- HFM มีบัญชีทดลอง (Demo Account) ไหม? ตอบ: ใช่ HFM มีบัญชีทดลองให้ใช้ฟรี ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้แพลตฟอร์มและฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดก่อนใช้เงินจริง
- HFM เปิดปิดกี่โมง? ตอบ: HFM เปิดให้เทรดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตามเวลาตลาด Forex สากล
- HFM ของประเทศอะไร? ตอบ: HFM มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศไซปรัส แต่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานในหลายประเทศ
- HFM มีค่า Swap ไหม? ตอบ: HFM ไม่มีค่า Swap ในหลายสินทรัพย์ เช่น EURUSD, GBPUSD, USDJPY, ทองคำ และน้ำมัน แต่สินทรัพย์อื่นๆ อาจมีค่า Swap ตามปกติ
- HFM เข้าสู่ระบบยังไง? ตอบ: สามารถเข้าสู่ระบบได้ผ่านเว็บไซต์หลักของ HFM หรือผ่านแอปพลิเคชัน HFM บนมือถือ โดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ได้รับเมื่อสมัครบัญชี
- HFM รับ Partner หรือ IB ไหม? ตอบ: ใช่ HFM มีโปรแกรม Partner และ Introducing Broker (IB) สำหรับผู้ที่สนใจแนะนำลูกค้าใหม่ให้กับ HFM
- HFM แพลตฟอร์มไหนดี? ตอบ: HFM มีหลายแพลตฟอร์มให้เลือก แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นต่างกัน MT4 เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยและต้องการใช้ EA, MT5 มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยกว่า ส่วนแอป HFM เหมาะสำหรับการเทรดบนมือถือ
- ดาวน์โหลด MetaTrader ของ HFM ได้ที่ไหน? ตอบ: สามารถดาวน์โหลด MetaTrader ได้จากเว็บไซต์หลักของ HFM ในส่วนของ “แพลตฟอร์ม” หรือดาวน์โหลดผ่าน App Store หรือ Google Play สำหรับเวอร์ชันมือถือ