GMI Markets ดีไหม
GMI Markets เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะเรื่อง Free Swap และ Spread ต่ำ ทำให้หลายคนสนใจเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์นี้ แต่ GMI Markets ดีจริงหรือไม่? มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง? บทความนี้จะวิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ อย่างครบถ้วน
1. ข้อมูลเบื้องต้น
GMI Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท GMI ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีสาขาในอีกหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น สำหรับประเทศไทยมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเทพฯ บริเวณอโศก
GMI Markets ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง ได้แก่:
- Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร – เลขทะเบียน FRN: 677530
- Vanuatu Financial Services Commission (VFSC) – เลขทะเบียน 14647
การได้รับใบอนุญาตจาก FCA ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ เนื่องจาก FCA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีมาตรฐานสูงและเข้มงวด ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์ได้มาก
2. ข้อดีของ GMI Markets
2.1 Free Swap
จุดเด่นที่สุดของ GMI Markets คือการให้บริการ Free Swap หรือไม่คิดค่า Swap เมื่อถือครองสถานะข้ามคืน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบเทรดแบบ Swing Trade หรือถือสถานะระยะกลาง-ยาว เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเมื่อถือครองสถานะนานๆ
2.2 Spread ต่ำมาก
GMI Markets มี Spread ที่ต่ำมากโดยเฉพาะในบัญชี ECN ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาด ตัวอย่างเช่น:
2.3 การฝาก-ถอนรวดเร็ว
GMI Markets มีระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วมาก โดยการฝากเงินจะเข้าบัญชีทันที ส่วนการถอนเงินใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ส่วนใหญ่
2.4 เรทฝาก-ถอนดี
นอกจากความเร็วแล้ว GMI Markets ยังมีเรทฝาก-ถอนที่ดี โดยมีส่วนต่างเพียง 0.9% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่อาจมีส่วนต่างสูงถึง 2-3%
2.5 เจ้าหน้าที่ให้บริการดี
GMI Markets มีทีมงานคนไทยคอยให้บริการ ทั้งทาง Live Chat และโทรศัพท์ โดยสามารถติดต่อได้ในช่วงเวลา 08.00-23.00 น. วันจันทร์ถึงศุกร์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำคอยดูแลลูกค้าแต่ละราย ทำให้สะดวกในการติดต่อสอบถามหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ
2.6 แพลตฟอร์มใช้งานง่าย
GMI Markets ใช้แพลตฟอร์ม MT4 ซึ่งเป็นที่นิยมและคุ้นเคยสำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มของตัวเองอย่าง xStation 5 ที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ครบครัน
2.7 เปิดบัญชีง่าย
ขั้นตอนการเปิดบัญชีกับ GMI Markets ค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน โดยสามารถทำผ่านเว็บไซต์ได้เลย
2.8 มีโบนัสและโปรโมชั่นน่าสนใจ
GMI Markets มีโบนัสและโปรโมชั่นหลากหลาย เช่น โบนัส 100% สำหรับการฝากครั้งแรก (สูงสุด 100 USD) และโบนัส 15% สำหรับการฝากครั้งต่อไป (สูงสุด 5,000 USD) ซึ่งช่วยเพิ่มเงินทุนในการเทรดให้กับลูกค้า
3. ข้อเสียของ GMI Markets
3.1 ต้องเหลือเงินในบัญชีอย่างน้อย 0.01 USD เมื่อถอน
เวลาถอนเงิน จะต้องเหลือเงินติดบัญชีอย่างน้อย 0.01 USD ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถถอนเงินทั้งหมดในบัญชีได้
3.2 จำกัดจำนวนบัญชีที่เปิดได้
สามารถเปิดบัญชีได้สูงสุดเพียง 9 บัญชี ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับเทรดเดอร์บางคนที่ต้องการแยกบัญชีหลายๆ บัญชี
3.3 ไม่สามารถเลือก Leverage เองได้
GMI Markets จะปรับ Leverage ให้ตามจำนวนเงินฝากหรือยอดเงินในบัญชี ซึ่งอาจไม่ตรงกับความต้องการของเทรดเดอร์บางคน โดยมีรายละเอียดดังนี้:
บัญชี ECN:
- 1:500 ($100 – $20,000)
- 1:300 ($20,001 – $100,000)
- 1:100 ($100,001 ขึ้นไป)
บัญชี Standard:
- 1:2000 ($25 – $10,000)
- 1:1000 ($10,001 – $30,000)
- 1:300 ($30,001 – $100,000)
- 1:100 ($100,001 ขึ้นไป)
3.4 การเทรดบนมือถืออาจมีความหน่วงบ้าง
มีรายงานว่าการเทรดผ่านแอพมือถืออาจมีความหน่วงบ้างในบางครั้ง แต่การเทรดผ่านคอมพิวเตอร์ไม่พบปัญหานี้
4. ประเภทบัญชีของ GMI Markets
GMI Markets มีบัญชีให้เลือก 4 ประเภท ได้แก่:
- บัญชี Standard
- บัญชี Standard (Bonus)
- บัญชี Cent
- บัญชี ECN
4.1 บัญชี Standard
- เงินฝากขั้นต่ำ: $25
- Leverage สูงสุด: 1:2000
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- Spread เริ่มต้นที่ 1.2 pips สำหรับ EUR/USD
4.2 บัญชี Standard (Bonus)
- เงื่อนไขเหมือนบัญชี Standard ทุกประการ
- มีโบนัสเงินฝาก 100% สำหรับการฝากครั้งแรก (สูงสุด $100)
- โบนัส 15% สำหรับการฝากครั้งต่อไป (สูงสุด $5,000)
4.3 บัญชี Cent
- เงินฝากขั้นต่ำ: $2.5
- Leverage สูงสุด: 1:2000
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- Spread เริ่มต้นที่ 1.2 pips สำหรับ EUR/USD
- เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการทดลองเทรดด้วยเงินจริงแต่เสี่ยงน้อย
4.4 บัญชี ECN
- เงินฝากขั้นต่ำ: $100
- Leverage สูงสุด: 1:500
- มีค่าคอมมิชชั่น $4 ต่อล็อต (round trip)
- Spread เริ่มต้นที่ 0.1 pips สำหรับ EUR/USD
- เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการ Spread ต่ำที่สุด
5. แพลตฟอร์มการเทรด
GMI Markets รองรับแพลตฟอร์มการเทรดดังนี้:
- MetaTrader 4 (MT4) สำหรับ PC
- MetaTrader 4 (MT4) สำหรับ Android
- MetaTrader 4 (MT4) สำหรับ iPhone
- xStation 5 (แพลตฟอร์มของ GMI Markets เอง)
- Metatrader 5 สำหรับ คอม
ทั้งนี้ GMI Markets ไม่มีบริการ MT4 Web Trader ที่สามารถเทรดผ่านเว็บบราวเซอร์ได้โดยตรง
6. การฝาก-ถอนเงิน
6.1 ความเร็วในการฝาก-ถอน
- ฝากเงิน: เงินเข้าบัญชีทันที
- ถอนเงิน: ใช้เวลาประมาณ 6 นาที (เร็วมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น)
6.2 เรทในการฝาก-ถอน
จากการทดสอบ พบว่า GMI Markets มีเรทฝาก-ถอนที่ดีมาก:
- ฝาก: 100 USD = 3,184.01 บาท
- ถอน: 99.96 USD = 3,153 บาท
- ส่วนต่าง: -31.01 บาท (-0.9%)
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนต่างที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาด
6.3 วิธีการฝาก-ถอนเงิน
GMI Markets รองรับวิธีการฝาก-ถอนเงินหลายรูปแบบ ได้แก่:
- โอนผ่านธนาคาร
- บัตรเครดิต/เดบิต
- E-Wallet (เช่น Skrill, Neteller)
- QR Code (สำหรับการฝากเงิน)
สำหรับลูกค้าไทย การฝากเงินผ่าน QR Code เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน
7. โปรโมชั่นและโบนัส
GMI Markets มีโปรโมชั่นและโบนัสที่น่าสนใจหลายรายการ ดังนี้:
7.1 โบนัส 100% สำหรับการฝากครั้งแรก
- สำหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น
- ได้รับโบนัส 100% ของยอดฝาก
- โบนัสสูงสุด 100 USD
- ใช้ได้เฉพาะบัญชี Standard
- เลเวอเรจ 1:2000
- เฉพาะลูกค้าในประเทศไทยและมาเลเซีย
7.2 โบนัส 15% สำหรับการฝากครั้งถัดไป
- สำหรับลูกค้าใหม่และเก่า
- ได้รับโบนัส 15% ของยอดฝาก
- โบนัสสูงสุด 5,000 USD
- ใช้ได้เฉพาะบัญชี Standard
- ฝากขั้นต่ำ 25 USD
- เลเวอเรจ 1:2000
- เฉพาะลูกค้าในประเทศไทย มาเลเซีย และบรูไน
สำหรับทั้งสองโปรโมชั่น กำไรที่เทรดจากโบนัสสามารถถอนได้ แต่หากมีการถอนเงิน โบนัสจะถูกตัดออกจากบัญชีทั้งหมด
8. ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
GMI Markets มีความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี ด้วยเหตุผลดังนี้:
- ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียง เช่น FCA และ VFSC
- มีประวัติการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 10 ปี
- มีสำนักงานในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย
- ไม่มีประวัติการโกงหรือปัญหาร้ายแรงที่กระทบต่อลูกค้า
อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังบางประการ เช่น:
- การถอนเงินอาจมีการตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติมในบางกรณี ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้า
- โบนัสและโปรโมชั่นมีเงื่อนไขที่ต้องศึกษาให้ละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
9. สรุป: GMI Markets ดีไหม?
GMI Markets เป็นโบรกเกอร์ที่มีจุดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะเรื่อง Free Swap และ Spread ต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบถือสถานะระยะกลาง-ยาว หรือต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วและมีเรทที่ดี
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา เช่น การไม่สามารถเลือก Leverage เองได้ และการมีเฉพาะ MT4 เท่านั้น
สรุปแล้ว GMI Markets เหมาะสำหรับ:
- เทรดเดอร์ที่ชอบถือสถานะข้ามคืนและต้องการประหยัดค่า Swap
- ผู้ที่ต้องการ Spread ต่ำและต้นทุนการเทรดที่ประหยัด
- เทรดเดอร์ที่ต้องการความรวดเร็วในการฝาก-ถอนเงิน
- ผู้ที่คุ้นเคยกับการใช้งาน MT4
แต่อาจไม่เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่ต้องการเลือก Leverage เองได้อย่างอิสระ
- เทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ MT5 หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ
- ผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีมากกว่า 9 บัญชี
ในท้ายที่สุด การเลือกโบรกเกอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเทรดของแต่ละคน ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและอาจทดลองใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง