Tickmill ดีไหม รีวิวโบรกเกอร์อย่างละเอียด 2024

ในยุคที่ตลาด Forex เติบโตอย่างก้าวกระโดดในประเทศไทย โบรกเกอร์ต่างชาติหลายรายต่างเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Tickmill โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เพิ่งเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ วันนี้ทีมงาน ThaibrokerForex จะมารีวิวความน่าสนใจของโบรกเกอร์รายนี้ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

“ทางเดินสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม”

Table of Contents

Tickmill ดีไหม

หลังจากที่เราได้แนะนำภาพรวมของ Tickmill ไปแล้ว คำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้คือ “Tickmill ดีไหม?” คำตอบคือ Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์หลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการต้นทุนการเทรดต่ำ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาบางประการ ดังนี้:

Tickmill ดีไหม
Tickmill ดีไหม

ข้อดีที่โดดเด่น:

  1. ต้นทุนการเทรดต่ำ: ด้วยสเปรดที่แคบและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ ทำให้ Tickmill เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยหรือใช้กลยุทธ์ Scalping
  2. ความน่าเชื่อถือสูง: การได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
  3. แพลตฟอร์มที่หลากหลาย: รองรับทั้ง MT4, MT5 และ WebTrader ทำให้เทรดเดอร์มีตัวเลือกในการใช้งาน
  4. การฝาก-ถอนที่สะดวก: มีหลายช่องทางและไม่มีค่าธรรมเนียมจากทาง Tickmill

ข้อควรพิจารณา:

  1. การรู้จักในไทยยังไม่กว้างขวาง: อาจทำให้บางคนลังเลในการเลือกใช้บริการ
  2. ระยะเวลาในการยืนยันตัวตน: อาจใช้เวลานานถึง 2 วัน ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน
  3. การติดต่อซัพพอร์ตบางครั้งอาจล่าช้า: โดยเฉพาะผ่านช่องทาง Live chat และ Line Official

 

โบรกเกอร์ Tickmill คืออะไร?

Tickmill เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศ Seychelles Tickmill ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง รวมถึง FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส) และ FSA (เซเชลส์) ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนทั่วโลก

Tickmill มีจุดเด่นในเรื่องของค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เทรดบ่อยหรือใช้กลยุทธ์ scalping นอกจากนี้ Tickmill ยังมีผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น และคริปโตเคอเรนซี

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย Tickmill ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีการให้บริการซัพพอร์ตภาษาไทย และมีช่องทางการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยโดยตรง ทำให้สะดวกสำหรับนักลงทุนชาวไทยมากขึ้น

Tickmill ดีไหม
Tickmill ดีไหม

ข้อดี – ข้อเสีย ของโบรกเกอร์ Tickmill

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรด Forex ทุกคน Tickmill มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ดังนี้

ข้อดี โบรกเกอร์ Tickmill

  1. ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่ำ: Tickmill มีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับบัญชี Pro และค่าคอมมิชชั่นเพียง 4 USD ต่อล็อต (round turn) ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาด
  2. ความน่าเชื่อถือสูง: Tickmill ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เช่น FCA, CySEC และ FSA ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
  3. แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลาย: Tickmill รองรับทั้ง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) รวมถึง WebTrader ทำให้นักเทรดสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ตนเองถนัดได้
  4. รองรับกลยุทธ์การเทรดทุกรูปแบบ: Tickmill อนุญาตให้ใช้กลยุทธ์การเทรดทุกรูปแบบ รวมถึงการใช้ Expert Advisors (EAs) และ Scalping
  5. ฝาก-ถอนสะดวก: สามารถฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยได้โดยตรง และไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝาก-ถอนผ่านการโอนเงินธนาคาร
  6. ซัพพอร์ตภาษาไทย: มีทีมซัพพอร์ตที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้สะดวกสำหรับนักลงทุนชาวไทย
  7. เลเวอเรจสูง: Tickmill เสนอเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:500 สำหรับบางบัญชี ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการใช้เงินทุนน้อยแต่ต้องการเทรดในปริมาณที่สูง
  8. ผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย: นอกจาก Forex แล้ว Tickmill ยังให้บริการเทรด CFD บนดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น และคริปโตเคอเรนซี
tickmill ข้อดีข้อเสีย
tickmill ข้อดีข้อเสีย

ข้อเสีย โบรกเกอร์ Tickmill

  1. การรู้จักในประเทศไทยยังไม่กว้างขวาง: แม้ Tickmill จะมีชื่อเสียงในระดับสากล แต่ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์บางราย
  2. ระยะเวลาในการยืนยันตัวตน: กระบวนการยืนยันตัวตนอาจใช้เวลานานถึง 2 วัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการเริ่มต้นเทรด
  3. Live chat ตอบช้า: บางครั้งการติดต่อผ่าน Live chat อาจใช้เวลานานกว่าจะได้รับการตอบกลับ (30 นาที – 1 ชั่วโมง หรือบางครั้งอาจนานกว่านั้น)
  4. Line Official ตอบช้า: เช่นเดียวกับ Live chat, การติดต่อผ่าน Line Official ก็อาจใช้เวลานานในการตอบกลับ
  5. โบนัสและโปรโมชั่นไม่มากนัก: เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์บางราย Tickmill มีโบนัสและโปรโมชั่นที่น้อยกว่า
  6. ไม่มี Copy Trading: ในขณะที่โบรกเกอร์หลายรายเสนอฟีเจอร์ Copy Trading, Tickmill ยังไม่มีบริการนี้ในประเทศไทย
  7. เว็บไซต์ภาษาไทยยังไม่สมบูรณ์: แม้จะมีเว็บไซต์ภาษาไทย แต่บางส่วนยังไม่ได้รับการแปลอย่างสมบูรณ์

ความน่าเชื่อถือของ โบรกเกอร์ Tickmill

ความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ Forex Tickmill ได้สร้างความน่าเชื่อถือผ่านหลายปัจจัย ดังนี้:

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex

Tickmill ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 นั่นหมายความว่าโบรกเกอร์นี้ได้ให้บริการมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรในอุตสาหกรรม Forex ที่มีการแข่งขันสูง การอยู่รอดและเติบโตมาได้นานขนาดนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและความสามารถในการบริหารจัดการของบริษัท

ใบอนุญาตและการกำกับดูแล

Tickmill ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโบรกเกอร์เป็นอย่างมาก:

ใบอนุญาต Tickmill
ใบอนุญาต Tickmill
  1. Financial Conduct Authority (FCA) – สหราชอาณาจักร
    • หมายเลขใบอนุญาต: 522157
    • ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: XTB Limited
  2. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) – ไซปรัส
    • หมายเลขใบอนุญาต: 169/12
    • ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: XTB Ltd
  3. Financial Services Authority (FSA) – เซเชลส์
    • หมายเลขใบอนุญาต: SD008
    • ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: Tickmill Ltd
  4. Financial Sector Conduct Authority (FSCA) – แอฟริกาใต้
    • หมายเลขใบอนุญาต: 49970
    • ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: XTB Africa (PTY) LTD
  5. Dubai Financial Services Authority (DFSA) – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
    • หมายเลขใบอนุญาต: F006316
    • ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน: XTB Ltd

การได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Tickmill ปฏิบัติตามมาตรฐานสูงในการดำเนินธุรกิจ มีความโปร่งใสในการดำเนินงาน และมีการปกป้องเงินทุนของลูกค้า

คะแนน Trust Pilot

Tickmill ได้รับคะแนนจาก Trustpilot ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรีวิวออนไลน์ที่เชื่อถือได้ โดยมีคะแนนเฉลี่ย 4.1 จาก 5 คะแนน จากผู้รีวิวกว่า 470 คน (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2024) คะแนนนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แสดงให้เห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับบริการของ Tickmill

tickmill Trustpilot
tickmill Trustpilot

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่ามีผู้ให้คะแนน 1 ดาวอยู่ประมาณ 14% ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

การแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้า

Tickmill มีการแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท (Segregated Accounts) ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางการเงินระดับสูง การแยกบัญชีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้บริษัทนำเงินของลูกค้าไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น และยังช่วยปกป้องเงินทุนของลูกค้าในกรณีที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน

tickmill แยกบัญชีลูกค้า
tickmill แยกบัญชีลูกค้า

ความโปร่งใสของข้อมูลบริษัท

Tickmill มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้บริหารระดับสูงบนเว็บไซต์อย่างชัดเจน รวมถึงมีการเชื่อมโยงไปยังโปรไฟล์ส่วนตัวของผู้บริหารเหล่านั้น ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสและความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัท

รางวัลที่ได้รับ

Tickmill ได้รับรางวัลจากหลายสถาบันที่มีชื่อเสียง ซึ่งยืนยันถึงคุณภาพการให้บริการ เช่น:

รางวัล Tickmill
รางวัล Tickmill
  • Best Forex Spreads 2022 – Ultimate Fintech Awards 2022
  • Best Trading Conditions 2021 – FxScouts Forex Awards 2021
  • Broker for Commissions and Fees – ForexBrokers.com Annual Forex Broker Review
  • Best MENA Forex Broker – Cairo Virtual Expo 2021
  • Best Customer Service – Cairo Virtual Expo 2021

รางวัลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Tickmill ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม Forex ในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องของสเปรด เงื่อนไขการเทรด และการบริการลูกค้า

Scam และข่าวด้านการโกง / การตุกติก

จากการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Tickmill ไม่พบข่าวเชิงลบที่รุนแรงเกี่ยวกับการโกงหรือตุกติกลูกค้า อย่างไรก็ตาม มีบางรีวิวใน Trustpilot ที่แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการถอนเงินที่ล่าช้าหรือมีปัญหา แต่ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ทาง Tickmill ได้เข้ามาชี้แจงและแก้ไขปัญหาแล้ว

โดยสรุป Tickmill มีความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี ด้วยการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง ประวัติการดำเนินงานที่ยาวนาน และความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ใดๆ เสมอ

ประเภทบัญชี โบรกเกอร์ Tickmill

Tickmill เสนอประเภทบัญชีให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้:

ประเภทบัญชี Tickmill
ประเภทบัญชี Tickmill

1. บัญชี Pro

  • เหมาะสำหรับ: นักเทรดมืออาชีพ, Scalper, ผู้ใช้ EA
  • สเปรดเริ่มต้น: 0.0 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: $4 ต่อล็อต (round turn)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • สว็อป: มีค่าสว็อป

ข้อดี:

  • สเปรดต่ำมาก เหมาะสำหรับ scalping และการเทรดความถี่สูง
  • ค่าคอมมิชชั่นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด
  • เหมาะสำหรับการใช้ EA เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเทรดต่ำ

2. บัญชี Classic

  • เหมาะสำหรับ: นักเทรดทั่วไป, มือใหม่
  • สเปรดเริ่มต้น: 1.6 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: ไม่มี
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • สว็อป: มีค่าสว็อป

ข้อดี:

  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ง่ายต่อการคำนวณต้นทุน
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่ต้องการความซับซ้อนในการคำนวณค่าธรรมเนียม
ประเภทบัญชี Tickmill ไหนดี
ประเภทบัญชี Tickmill ไหนดี

3. บัญชี VIP

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนรายใหญ่, ผู้เทรดปริมาณสูง
  • สเปรดเริ่มต้น: 0.0 pips
  • ค่าคอมมิชชั่น: $2 ต่อล็อต (round turn)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: $50,000
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • สว็อป: มีค่าสว็อป

ข้อดี:

  • ค่าคอมมิชชั่นต่ำที่สุดในบรรดาบัญชีทั้งหมด
  • เหมาะสำหรับผู้ที่เทรดปริมาณมากและต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด

4. บัญชี Swap-free (Islamic)

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนมุสลิม หรือผู้ที่ไม่ต้องการเสียค่าสว็อป
  • สเปรดและค่าคอมมิชชั่น: ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่เลือก (Pro, Classic, หรือ VIP)
  • เงินฝากขั้นต่ำ: ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่เลือก
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • สว็อป: ไม่มีค่าสว็อป แต่อาจมีค่าธรรมเนียมการถือครองระยะยาวแทน

ข้อดี:

  • ไม่มีค่าสว็อป เหมาะสำหรับการถือครองระยะยาว
  • สอดคล้องกับหลักการทางศาสนาอิสลาม

การเลือกประเภทบัญชีควรพิจารณาจากรูปแบบการเทรด เงินทุน และประสบการณ์ของนักเทรดแต่ละคน โดยทั่วไป:

  • บัญชี Pro เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำ
  • บัญชี Classic เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการคำนวณต้นทุน
  • บัญชี VIP เหมาะสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
  • บัญชี Swap-free เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือครองระยะยาวโดยไม่เสียค่าสว็อป

ภาพรวมการเทรด ความลื่นไหล กราฟค้าง? ลากไส้เทียน?

ประสิทธิภาพในการเทรดเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ สำหรับ Tickmill มีจุดเด่นในเรื่องนี้หลายประการ:

ความลื่นไหลในการเทรด

Tickmill ใช้เทคโนโลยี Low Latency ทำให้การส่งคำสั่งซื้อขายมีความเร็วสูง โดยมี Server Latency เฉลี่ยประมาณ 0.2 วินาที ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ทำให้การเปิดและปิดออเดอร์เป็นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเทรดทุกรูปแบบ โดยเฉพาะ Scalping และ Day Trading

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

Requotes หรือการรีโควตราคา เป็นปัญหาที่พบได้ในทุกโบรกเกอร์ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง สำหรับ Tickmill นั้น จากการรวบรวมข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้งานจริง พบว่า:

  • ในช่วงเวลาปกติ การเกิด Requotes มีน้อยมาก
  • ในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง อาจพบ Requotes บ้าง แต่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
  • Tickmill ใช้ระบบ No Dealing Desk (NDD) ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิด Requotes

อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรระมัดระวังในการเทรดช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง เพื่อลดความเสี่ยงจาก Requotes

กราฟค้างบ่อยไหม / ลากไส้เทียนมากิน stop loss บ่อยไหม

ปัญหากราฟค้างหรือการลากไส้เทียนมากิน stop loss เป็นประเด็นที่นักเทรดให้ความสนใจ สำหรับ Tickmill:

  • ในสภาวะตลาดปกติ ไม่พบปัญหากราฟค้างหรือการลากไส้เทียนผิดปกติ
  • ในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง อาจพบการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงได้ ซึ่งเป็นปกติของตลาด Forex
  • Tickmill ใช้ระบบ Straight Through Processing (STP) ซึ่งส่งคำสั่งซื้อขายตรงไปยังตลาด ทำให้ราคาสอดคล้องกับสภาพตลาดจริง

ข้อแนะนำ: เทรดเดอร์ควรระมัดระวังในการตั้ง stop loss ให้มีระยะห่างจากราคาตลาดพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงที่คาดว่าจะมีความผันผวนสูง

Slippage บ่อยไหม

Slippage หรือการลื่นไถลของราคา เป็นปรากฏการณ์ปกติในตลาด Forex โดยเฉพาะในช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำหรือมีความผันผวนสูง สำหรับ Tickmill:

  • ในสภาวะตลาดปกติ Slippage มีน้อยมาก และส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
  • Tickmill ใช้ระบบ No Dealing Desk (NDD) ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิด Slippage ที่ไม่เป็นธรรม
  • มีระบบ Negative Balance Protection ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้บัญชีติดลบในกรณีที่เกิด Slippage รุนแรง

ข้อแนะนำ: เทรดเดอร์ควรใช้คำสั่ง Limit Order แทน Market Order ในช่วงที่คาดว่าจะมีความผันผวนสูง เพื่อควบคุม Slippage

ระดับ Stop out

ระดับ Stop out คือระดับที่โบรกเกอร์จะปิดสถานะการเทรดทั้งหมดโดยอัตโนมัติเมื่อ Margin Level ลดลงถึงระดับนั้น สำหรับ Tickmill:

  • ระดับ Stop out อยู่ที่ 30% ของ Margin Level
  • เมื่อ Margin Level ลดลงถึง 30% ระบบจะเริ่มปิดสถานะที่ขาดทุนมากที่สุดก่อน จนกว่า Margin Level จะกลับมาสูงกว่า 30%

ข้อแนะนำ: เทรดเดอร์ควรติดตาม Margin Level อย่างสม่ำเสมอและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด Stop out

ระดับ Stopout ของ Tickmill
ระดับ Stopout ของ Tickmill

โดยสรุป Tickmill มีประสิทธิภาพในการเทรดที่ดี มีความลื่นไหลในการส่งคำสั่งซื้อขาย และมีระบบที่ช่วยลดปัญหา Requotes, Slippage และการลากไส้เทียนที่ไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรระมัดระวังในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง และใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

บัญชีที่แนะนำของ โบรกเกอร์ Tickmill

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ สำหรับ Tickmill เราขอแนะนำบัญชีดังนี้:

บัญชี Pro

บัญชี Pro เป็นบัญชีที่แนะนำสำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำ

ข้อดี:

  • สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips ซึ่งต่ำมาก
  • ค่าคอมมิชชั่นเพียง $4 ต่อล็อต (round turn) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด
  • เหมาะสำหรับทุกกลยุทธ์การเทรด รวมถึง Scalping และการใช้ EA
  • เงินฝากขั้นต่ำเพียง $100 ทำให้เข้าถึงได้ง่าย

ข้อควรระวัง:

  • มีค่าสว็อป ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการถือครองระยะยาว
  • ต้องคำนวณต้นทุนรวมจากทั้งสเปรดและค่าคอมมิชชั่น

บัญชี Classic

บัญชี Classic เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการคำนวณต้นทุน

ข้อดี:

  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ง่ายต่อการคำนวณต้นทุน
  • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.6 pips ซึ่งอยู่ในระดับที่แข่งขันได้
  • เงินฝากขั้นต่ำเพียง $100

ข้อควรระวัง:

  • สเปรดกว้างกว่าบัญชี Pro อาจไม่เหมาะกับการ Scalping หรือ Day Trading
  • มีค่าสว็อป

บัญชี Swap-free (Islamic)

บัญชี Swap-free เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือครองระยะยาวโดยไม่เสียค่าสว็อป หรือนักลงทุนมุสลิมที่ต้องการบัญชีที่สอดคล้องกับหลักศาสนา

Tickmill islamic account
Tickmill islamic account

ข้อดี:

  • ไม่มีค่าสว็อป เหมาะสำหรับการถือครองระยะยาว
  • มีให้เลือกทั้งแบบ Pro และ Classic

ข้อควรระวัง:

  • อาจมีค่าธรรมเนียมการถือครองระยะยาวแทนค่าสว็อป
  • ต้องยืนยันว่าต้องการใช้บัญชี Swap-free ด้วยเหตุผลทางศาสนาหรือเหตุผลส่วนตัว

โดยสรุป:

  • สำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่เทรดบ่อยหรือใช้กลยุทธ์ Scalping/Day Trading แนะนำให้ใช้บัญชี Pro
  • สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการความเรียบง่าย แนะนำให้ใช้บัญชี Classic
  • สำหรับผู้ที่ต้องการถือครองระยะยาวโดยไม่เสียค่าสว็อป แนะนำให้ใช้บัญชี Swap-free

ทั้งนี้ เทรดเดอร์ควรพิจารณารูปแบบการเทรด เงินทุน และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเองก่อนเลือกประเภทบัญชี

โปรโมชั่นของ โบรกเกอร์ Tickmill

Tickmill มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจสำหรับทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์หรือติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าโดยตรง ณ เดือนสิงหาคม 2024 Tickmill มีโปรโมชั่นดังนี้:

โบนัสต้อนรับ 30 USD Tickmill
โบนัสต้อนรับ 30 USD Tickmill

1. โบนัสเงินฝาก 30%

  • รายละเอียด: รับโบนัสเพิ่ม 30% ของยอดเงินฝาก
  • เงื่อนไข: ต้องฝากเงินขั้นต่ำ $500 และทำยอดเทรดตามที่กำหนด
  • ข้อดี: เพิ่มเงินทุนในการเทรดโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
  • ข้อควรระวัง: ต้องทำยอดเทรดให้ถึงตามเงื่อนไขจึงจะถอนโบนัสได้

2. Cashback สูงสุด $2 ต่อล็อต

  • รายละเอียด: รับเงินคืนสูงสุด $2 ต่อล็อตที่เทรด
  • เงื่อนไข: ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม และทำยอดเทรดขั้นต่ำตามที่กำหนด
  • ข้อดี: ช่วยลดต้นทุนการเทรดในระยะยาว
  • ข้อควรระวัง: จำนวนเงิน Cashback อาจแตกต่างกันตามประเภทบัญชีและคู่สกุลเงินที่เทรด

3. โปรแกรมแนะนำเพื่อน (Refer a Friend)

  • รายละเอียด: รับโบนัสเมื่อแนะนำเพื่อนมาเปิดบัญชีและเทรดกับ Tickmill
  • เงื่อนไข: เพื่อนที่แนะนำต้องเปิดบัญชีและทำยอดเทรดตามที่กำหนด
  • ข้อดี: สามารถสร้างรายได้เสริมจากการแนะนำเพื่อน
  • ข้อควรระวัง: ควรแนะนำเฉพาะผู้ที่สนใจเทรด Forex จริงๆ เท่านั้น

4. Trading Booster

  • รายละเอียด: รับเครดิตเพิ่มสูงสุด 50% ของยอดเงินฝาก
  • เงื่อนไข: ต้องฝากเงินขั้นต่ำ $1,000 และทำยอดเทรดตามที่กำหนด
  • ข้อดี: เพิ่มกำลังซื้อในการเทรดโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
  • ข้อควรระวัง: มีระยะเวลาจำกัดในการใช้เครดิต และต้องทำยอดเทรดให้ถึงตามเงื่อนไข

หมายเหตุ: โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง และอาจไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ ควรตรวจสอบเงื่อนไขอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเข้าร่วม

Platform ที่ใช้งาน

Tickmill เสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ทุกระดับ ดังนี้:

MT4 MT5 ของ Tickmill
MT4 MT5 ของ Tickmill

1. MetaTrader 4 (MT4)

  • ข้อดี:
    • เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุด
    • ใช้งานง่าย มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย
    • รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EAs)
    • มีทั้งเวอร์ชั่น Desktop, Web, และ Mobile
  • ข้อเสีย:
    • อาจมีข้อจำกัดในการแสดงผลกราฟบางประเภท
    • การอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ อาจช้ากว่า MT5

2. MetaTrader 5 (MT5)

  • ข้อดี:
    • มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยกว่า MT4
    • รองรับการเทรดหุ้นและ CFD ได้ดีกว่า
    • มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลายกว่า
    • สามารถเปิดหลายออเดอร์พร้อมกันได้
  • ข้อเสีย:
    • อาจมีความซับซ้อนมากกว่า MT4 สำหรับมือใหม่
    • EAs ที่ใช้งานบน MT4 อาจไม่สามารถใช้งานบน MT5 ได้โดยตรง

3. WebTrader

  • ข้อดี:
    • ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรม
    • สามารถเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    • อัพเดทง่าย ไม่ต้องรอการอัพเดทจากผู้ใช้
  • ข้อเสีย:
    • อาจมีฟีเจอร์จำกัดกว่าเวอร์ชั่น Desktop
    • ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

4. Mobile Trading App

  • ข้อดี:
    • สะดวกสำหรับการเทรดทุกที่ทุกเวลา
    • รองรับทั้ง iOS และ Android
    • มีฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วนสำหรับการเทรดและติดตามตลาด
  • ข้อเสีย:
    • หน้าจอขนาดเล็กอาจไม่เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน
    • อาจมีข้อจำกัดในการใช้งาน EAs

โดยสรุป Tickmill ให้ทางเลือกที่หลากหลายในการเทรด เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของตนเองได้

การฝาก-ถอน โบรกเกอร์ Tickmill

การฝากและถอนเงินเป็นส่วนสำคัญของการเทรด Forex Tickmill มีระบบการฝาก-ถอนที่สะดวกและปลอดภัย ดังนี้:

ความเร็วในการฝาก-ถอน

  • ฝาก: ส่วนใหญ่เงินเข้าบัญชีทันที (ยกเว้นการโอนผ่านธนาคาร อาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ)
  • ถอน: โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง (อาจนานถึง 1 วันทำการในบางกรณี)

ค่าบริการ / Rate ฝาก-ถอน

  • ฝาก: ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก Tickmill (แต่อาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงิน)
  • ถอน: ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการถอนผ่านการโอนเงินธนาคาร (แต่อาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารปลายทาง)

วิธีการ ฝาก – ถอน โบรกเกอร์ Tickmill

การฝากเงิน:

  1. เข้าสู่ระบบ Client Area
  2. เลือกเมนู “ฝากเงิน”
  3. เลือกวิธีการฝากเงิน (โอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, e-wallet ฯลฯ)
  4. กรอกจำนวนเงินและทำตามขั้นตอนที่ระบุ

การถอนเงิน:

  1. เข้าสู่ระบบ Client Area
  2. เลือกเมนู “ถอนเงิน”
  3. เลือกวิธีการถอนเงิน (ควรเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ฝาก)
  4. กรอกจำนวนเงินและทำตามขั้นตอนที่ระบุ

ช่องทางการฝาก-ถอนที่รองรับ:

  1. โอนผ่านธนาคาร (Wire Transfer)
  2. บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, MasterCard)
  3. Skrill
  4. Neteller
  5. FasaPay
  6. Perfect Money
  7. การโอนเงินในประเทศ (สำหรับบางประเทศ รวมถึงไทย)

ข้อควรระวัง:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อบัญชีที่ใช้ฝากตรงกับชื่อในบัญชี Tickmill
  • ควรถอนเงินด้วยวิธีเดียวกับที่ใช้ฝาก เพื่อป้องกันปัญหาการฟอกเงิน
  • อาจมีการขอเอกสารยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในกรณีที่มีการฝากหรือถอนเงินจำนวนมาก

Copy Trade โบรกเกอร์ Tickmill

ณ เดือนสิงหาคม 2024 Tickmill ยังไม่มีระบบ Copy Trade ที่เป็นของตัวเองสำหรับลูกค้าในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์สามารถใช้บริการ Copy Trade ผ่านแพลตฟอร์มภายนอกได้ เช่น:

  1. ZuluTrade
  2. MyFXBook
  3. SignalStart

ข้อควรระวังในการใช้ Copy Trade:

  • ศึกษาประวัติและผลงานของ Signal Provider อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ Copy
  • ตั้งค่าการจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสมกับเงินทุนของตนเอง
  • ไม่ควรใช้เงินทั้งหมดในการ Copy Trade ควรแบ่งส่วนหนึ่งไว้สำหรับการเทรดด้วยตนเอง

ช่องทางการติดต่อ / Support

Tickmill มีช่องทางการติดต่อและให้บริการลูกค้าหลากหลายช่องทาง ดังนี้:

ติดต่อ Tickmill
ติดต่อ Tickmill
  1. Live Chat: ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์-ศุกร์) มีเจ้าหน้าที่ภาษาไทยให้บริการในช่วงเวลา 00:00 – 18:00 น.
  2. โทรศัพท์: สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข +66 600024059 (สำหรับการเปิดบัญชี) และ +66 20261622 (สำหรับการสนับสนุนทั่วไป)
  3. อีเมล: [email protected]
  4. Line Official: @tickmill.th (อาจมีการตอบกลับช้ากว่าช่องทางอื่น)
  5. Facebook: https://web.facebook.com/Tickmill
  6. สำนักงานตัวแทนในประเทศไทย: สามารถติดต่อขอนัดหมายเพื่อพบปะพูดคุยได้

ข้อสังเกต:

  • Live Chat อาจมีการตอบกลับช้าในบางช่วงเวลา (30 นาที – 1 ชั่วโมง)
  • Line Official และ Facebook อาจมีการตอบกลับช้ากว่าช่องทางอื่น
  • ควรใช้ช่องทางการติดต่อที่เป็นทางการเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวง

สรุป

Tickmill เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีจุดเด่นในเรื่องของค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เทรดบ่อยหรือใช้กลยุทธ์ Scalping และ Day Trading

จุดเด่น:

  • ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่ำ
  • ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง
  • แพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
  • ระบบการฝาก-ถอนที่สะดวกและรวดเร็ว
  • มีบริการซัพพอร์ตภาษาไทย

จุดที่ควรพิจารณา:

  • การรู้จักในประเทศไทยยังไม่กว้างขวางเท่าโบรกเกอร์บางราย
  • ระยะเวลาในการยืนยันตัวตนอาจใช้เวลานานถึง 2 วัน
  • บางครั้งการติดต่อผ่าน Live chat หรือ Line Official อาจมีความล่าช้า
  • ยังไม่มีระบบ Copy Trade ที่เป็นของตัวเอง

สำหรับใครที่เหมาะกับ Tickmill:

  1. เทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดต่ำ โดยเฉพาะผู้ที่เทรดบ่อยหรือใช้กลยุทธ์ Scalping
  2. ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแลของโบรกเกอร์
  3. เทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ Expert Advisors (EAs) หรือ Algorithmic Trading
  4. ผู้ที่ต้องการเทรดหลากหลายผลิตภัณฑ์ ทั้ง Forex, CFDs, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเปิดบัญชีกับ Tickmill:

  1. เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มและเงื่อนไขการเทรด
  2. ศึกษาและทำความเข้าใจเงื่อนไขของแต่ละประเภทบัญชีให้ดีก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง
  3. เตรียมเอกสารสำหรับการยืนยันตัวตนให้พร้อม เพื่อลดระยะเวลาในการเปิดบัญชี
  4. หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอคำแนะนำก่อนตัดสินใจ
  5. เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนที่เหมาะสมกับประสบการณ์และความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง

โดยสรุป Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนการเทรดต่ำและให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ด้วยจุดเด่นในเรื่องของค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ ทำให้ Tickmill เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับเทรดเดอร์ Forex ในปี 2567