โบรกเกอร์ forex ไหนดีที่สุด

โบรกเกอร์ forex ไหนดีที่สุด

การเลือกโบรกเกอร์ Forex (ฟอเร็กซ์) คือการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับนักลงทุนในตลาดเงินต่างประเทศ การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมจะส่งผลต่อประสบการณ์การลงทุนและความปลอดภัยของเงินลงทุนของคุณ ดังนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้เมื่อต้องการเลือกโบรกเกอร์:

1. การกำกับดูแล: ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการตรวจสอบและการกำกับดูแลจากหน่วยงานรัฐ หากโบรกเกอร์มีการรับรองจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียง เช่น FCA (UK), CySEC (Cyprus), ASIC (Australia), จะเป็นการยืนยันว่าโบรกเกอร์นั้นมีมาตรฐานและเป็นที่น่าเชื่อถือ
2. สเปรดและค่าธรรมเนียม: ประเมินสเปรด (ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย) และค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพื่อตรวจสอบว่าเหมาะสมกับการลงทุนของคุณหรือไม่
3. แพลตฟอร์มการซื้อขาย: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มการซื้อขายมีความเสถียร มีฟังก์ชันที่คุณต้องการ และใช้งานได้ง่าย
4. การบริการลูกค้า: ความสามารถในการตอบสนองต่อปัญหาและคำถามของลูกค้า รวมถึงเวลาตอบสนองที่รวดเร็ว
5. ฝาก/ถอนเงิน: วิธีการฝากและถอนเงินควรง่ายและรวดเร็ว และควรไม่มีค่าธรรมเนียมสูง
6. ประสบการณ์และความเป็นมา: ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีประวัติการทำธุรกิจที่เสถียร เปิดบริการมากกว่า 10 ปี
7. การศึกษาและแหล่งข้อมูล: บางโบรกเกอร์จะมีแหล่งข้อมูล การศึกษาและวิเคราะห์ที่ดีเพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะของนักลงทุน
8. เทคโนโลยีและเครื่องมือ: ควรมีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค ข้อมูลข่าวสารและอื่นๆ ที่เสริมสร้างการตัดสินใจ
9. ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เทรด: ความสามารถในการซื้อขายสินค้าหลากหลาย เช่น คู่เงินต่างประเทศ, สินค้าพื้นฐาน, หุ้น คริปโต และอื่นๆ
10. ความปลอดภัยของเงินลงทุน: การมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของเงินลงทุนของลูกค้า เช่น การเก็บเงินลูกค้าในบัญชีแยกกับบริษัท

อันดับ 1 โบรกเกอร์ Eightcap

รายละเอียดเกี่ยวกับ EightCap

• ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น, ออสเตรเลีย และก่อตั้งตั้งแต่ปี 2009
• อยู่ภายใต้การควบคุมของ Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
• ยืนยันการเข้าถึงราคาจาก liquidity providers ชั้นนำ ทำให้สเปรดยุติธรรม
• มีฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทย และรองรับธนาคารออนไลน์ในไทย
• สามารถเทรดผ่าน Metatrader 4 และ Metatrader 5

ข้อดีของ Eightcap

1. ความน่าเชื่อถือสูง มีการแยกเงินลูกค้าและทุนบริษัท
2. ฝาก-ถอนฟรี และมีเรทที่ดี
3. มีสินทรัพย์หลายประเภทและค่า Spread ต่ำ
4. แพลตฟอร์มหลากหลาย
5. ฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทย
6. โปรโมชั่นน่าสนใจ
7. ฝากเงินขั้นต่ำเพียง 100 $

ข้อเสียของ Eightcap

1. บัญชี Demo มีเวลาในการให้บริการจำกัด
2. ประเภทบัญชีเทรดจำกัด
3. การถอนเงินและเปลี่ยน leverage อาจมีการรอ
4. ข้อจำกัดในการให้ข้อมูลและการวิเคราะห์
5. ไม่มีฟีเจอร์ Social Trading

อันดับ 2 โบรกเกอร์ Exness

รายละเอียดเกี่ยวกับ Exness

Exness คือโบรกเกอร์ Forex ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2008 และตั้งสำนักงานใหญ่ที่ประเทศไซปรัส. ภายใต้การกำกับดูแลของหลายสำนักงานระดับสากล ได้แก่ FSA ประเทศเซเชลส์ ด้วยหมายเลขใบอนุญาต SD025, CySEC ประเทศไซปรัส ด้วยใบอนุญาตเลขที่ 178/12 และ FCA ประเทศอังกฤษ ด้วยใบอนุญาตเลขที่ 730729.

ข้อดี Exness

1. โบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด Forex เนื่องจากความสะดวกสบายและความรวดเร็ว.
2. การเปิดบัญชีง่ายและไม่มีอุปสรรค.
3. การฝาก-ถอนเงินรวดเร็ว ภายใน 4 ชั่วโมงถึง 24 ชั่วโมง.
4. มีบริการสนับสนุนลูกค้าภาษาไทยและอีก 13 ภาษา.
5. มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการบริการแทนการเน้นโปรโมชั่น.
6. มีบัญชีที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักเทรดทุกประเภท.
7. ใช้เทคโนโลยีการเทรดขั้นสูงและมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย.
8. มีความน่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานหลายแห่ง.
9. มุ่งเน้นความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้.

ข้อเสีย Exness

1. ปัญหาเวลาเทรดข่าวสำคัญ.
2. บัญชี Raw Spread อาจทำให้นักเทรดใหม่ลำบากในการเข้าใจ.
3. การบริการลูกค้าบางครั้งอาจมีปัญหาในการติดต่อและความเข้าใจ.

อันดับ 3 โบรกเกอร์ GMI Markets

รายละเอียดเกี่ยวกับ GMI

GMI คือโบรกเกอร์ Forex ที่เริ่มก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 และได้รับการยอมรับด้านความเป็นมืออาชีพและความโปร่งใสในการบริการ พร้อมด้วยใบอนุญาตจาก FCA และ VFSC และ 4 รางวัลจาก Global Forex Awards. GMI บริการถึง 1 ล้านบัญชีจาก 30+ ประเทศ มีสินทรัพย์หลากหลาย และนำเสนอ Cloud Trading. หากต้องการโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์, GMI เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ.

ข้อดีของ GMI Markets

1. ไม่เก็บค่า Swap สำหรับทุกบัญชี.
2. Spread ต่ำสำหรับบัญชี ECN.
3. ไม่มีค่าคอมมิชชั่น.
4. การฝากถอนรวดเร็ว และเรทฝากถอนที่มีประสิทธิภาพ.
5. โปรโมชั่นสำหรับการฝากเงิน.
6. บริการด้วยภาษาไทย.
7. ซอฟต์แวร์เทรด GMI forex MT4 ยกย่องเป็นที่สุด.
8. รองรับ EA, Hedging และ Scalping.
9. การฝากถอนเงินรองรับธนาคารไทยและไลน์.

ข้อเสียของ GMI Markets

1. เฉพาะโปรแกรมเทรด MT4.
2. กระบวนการยืนยันการถอนผ่านสมุดยุ่งยาก.
3. ต้องเหลือเงิน 0.01 USD ในบัญชีเสมอ.
4. ค่าธรรมเนียม 10 USD/เดือน หากไม่เทรดเกิน 90 วัน.
5. จำกัดการเปิดบัญชีไม่เกิน 9 บัญชี.

อันดับ 4 โบรกเกอร์ Tickmill

รายละเอียดเกี่ยวกับ Tickmill

• ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2014 ในสหราชอาณาจักร
• มีฐานลูกค้าในกว่า 200 ประเทศ ด้วยบริการกว่า 10 ภาษา
• ให้ความสำคัญกับประเทศไทย ผ่านเว็บไซต์และการสนับสนุนใน Facebook ด้วยภาษาไทย
• เป็นโบรกเกอร์และสถาบันการศึกษาด้าน Forex ด้วยการจัดสัมมนาและการอบรม
• ได้รับการยอมรับในความเชื่อถือได้, คุณภาพบริการ และการตอบสนองความต้องการลูกค้า

ข้อดีของ Tickmill

1. ความรวดเร็วในการส่งคำสั่ง
2. ค่าคอมมิชชั่นต่ำ ที่ 4 USD ต่อ Lot
3. ได้รับใบอนุญาตและความน่าเชื่อถือจากสถาบันระดับโลก
4. ศูนย์บริการที่ประเทศไทย
5. เทรดหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทอง, น้ำมัน หรือคริปโต

ข้อเสียของ Tickmill

1. การฝากขั้นต่ำปัจจุบัน 100 ดอลลาร์, สูงขึ้นจาก 25 ดอลลาร์ในอดีต
2. แม้มี Welcome Bonus $30 แต่ยังไม่เท่ากับการฝากขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น
3. Live Chat ไม่มีบริการในวันหยุด, ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมในวันนั้น

อันดับ 5 โบรกเกอร์ IUX

รายละเอียดเกี่ยวกับ IUX

IUX คือโบรกเกอร์ Forex ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2016 และได้รับความนิยมและไว้วางใจในประเทศไทย เนื่องจากให้บริการหน้าเว็บภาษาไทยและซัพพอร์ตหลายภาษา เช่น อังกฤษ, ลาว, และเวียดนาม มีบัญชีและผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์

ข้อดีของ IUX

• ค่าบริการที่คุ้มค่า, สเปรดถูก, และสวอปต่ำ
• Server เร็วและประสิทธิภาพสูง
• แพลตฟอร์มเทรด MT5 ที่มีเครื่องมือเทรดหลากหลาย
• บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และการรับผิดชอบปัญหา
• โปรโมชั่นและโบนัสหลายรูปแบบ
• ฝาก-ถอนเงินรวดเร็วภายใน 10 นาที
• นิยมและได้รับความไว้วางใจในประเทศไทย

ข้อเสียของ IUX

• ไม่มีโปรแกรม MT4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นิยม
• จำกัดจำนวน EA สำหรับ MT5
• ผู้ที่ใช้ MT4 อาจต้องใช้เวลาปรับตัวกับ MT5

อันดับ 6 โบรกเกอร์ XM

รายละเอียดโบรกเกอร์ XM

• มาจากไซปรัส และมีการบริการกับนักเทรดไทยมานาน
• มีทีม Support ภาษาไทย
• จัดงานและอีเว้นท์เพื่อส่งเสริมความรู้ด้าน Forex

ข้อดี

1. ความน่าเชื่อถือ: มีใบอนุญาตถูกต้อง และคนไทยรู้จักจำนวนมาก
2. การเริ่มต้นการเทรด: เปิดบัญชีเริ่มต้นที่ 5 USD, โบนัสฟรี 30 USD สำหรับลูกค้าใหม่
3. คุณสมบัติของบัญชี: ค่าสเปรดต่ำ, ค่าคอมมิชชั่นฟรี, เลเวอเรจสูง 1:1000, มีบัญชี Swap Free
4. แพลตฟอร์ม: รวดเร็ว, กราฟเทรดเสถียร
5. การบริการ: ฝากถอนหลายช่องทาง, ซัพพอร์ตภาษาไทย

ข้อเสีย

1. ค่าใช้จ่าย: ค่า Swap สูงสำหรับนักเทรดที่ต้องการถือออเดอร์ข้ามคืน
2. การสนับสนุน: ซัพพอร์ต Live Chat ภาษาไทย มีเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ 9.00-18.00 น.

อันดับ 7 โบรกเกอร์ FBS

รายละเอียดทั่วoไป

• FBS คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ระดับระหว่างประเทศ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2009
• มีสำนักงานใหญ่ที่เบลีซและไซปรัส
• ให้บริการในกว่า 150 ประเทศ ด้วยนักลงทุน 23,000,000 คน และหุ้นส่วน 410,000 คน
• ได้รับรางวัลมากกว่า 60 รางวัล เช่น ‘The Most Progressive Forex Broker’ ในยุโรปปี 2019
• อยู่ภายใต้การควบคุมของ CySEC, IFSC, Fi และ BaFin

ข้อดี FBS

• น่าเชื่อถือระดับโลก และได้รับการยอมรับจากรางวัลหลายๆ รางวัล
• ให้บริการเทรดผ่าน MT4 และ MT5 และมีสินทรัพย์หลายประเภทเพื่อเทรด
• มีแพลตฟอร์มก็อปปี้เทรดดิ้ง และฝ่ายบริการลูกค้า 24 ชม. ภาษาไทย
• การฝากถอนรวดเร็วผ่านธนาคารไทย
• มีโบนัสและโปรโมชั่นหลายๆ อย่าง รวมถึงเป็น Sponsor กีฬา

ข้อเสีย 

• ค่าคอมมิชชั่นสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น
• แม้จะมีประเภทบัญชีเทรดหลากหลาย แต่ Spread บางตัวมีราคาสูง

อันดับ 8 โบรกเกอร์ HFM

รายละเอียดโบรกเกอร์ HFM

• HFM (HF Markets) หรือที่รู้จักในอดีตว่า HotForex
• จดทะเบียนที่ St. Vincent & the Grenadine
• มีการแยกบัญชีเงินลูกค้า และมีการันตีด้วยประกันสูงสุด 5,000,000 ยูโร
• ปีที่ก่อตั้ง 2010
• Spread: 1.2 pips เฉลี่ย
• Leverage: สูงสุด 1:2000
• Commission: ไม่เสียค่าคอมมิชชั่น (ยกเว้นบัญชี Zero)
• Swap: ไม่มี
• เงินฝากขั้นต่ำ: ไม่มีขั้นต่ำ

ข้อดีของ HFM

1. น่าเชื่อถือสูง: ได้รับรางวัลหลายรางวัลและมีการป้องกันทางการเงินถึง 5,000,000 ปอนด์.
2. มีสินทรัพย์หลากหลายให้เทรด: รวมถึงสกุลเงิน, สกุลเงินดิจิทัล, โลหะ, ดัชนี, หุ้น และอื่น ๆ
3. ค่า Spread Forex ต่ำ
4. ไม่มีค่า Swap สำหรับคู่เงินหลักและทองคำ
5. ไม่คิดค่าธรรมเนียมฝาก-ถอนเงิน
6. มีประเภทบัญชีเทรดหลากหลาย
7. รองรับแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
8. เลเวอเรจสูงสุด 1:2000
9. มีโปรโมชั่นและโบนัสหลากหลาย
10. การฝากถอนเงินรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง
11. ฝากถอนเงินขั้นต่ำต่ำ
12. ช่องทางฝากถอนเงินหลายแบบ
13. มีเว็บและบริการภาษาไทย

ข้อเสียของ HFM

1. ค่า Spread และค่า Swap สูงบางกรณี
2. ไม่มีเบอร์โทรและไลน์ในประเทศไทยให้ติดต่อ
3. ความน่าเชื่อถือของรายงานการตรวจสอบต่ำ
4. อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
5. การบริการลูกค้าบางครั้งอาจไม่ตรงตามความคาดหวัง