Bullish Engulfing คืออะไร
รุปแบบ Bullish Engulfing” เป็นรูปแบบหนึ่งของแนวเทคนิคในการวิเคราะห์กราฟราคาในตลาดทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์ เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงโอกาสที่ราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่กำลังตรวจสอบอาจมีแนวโน้มที่จะเริ่มขึ้น (เป็น “Bullish”) หลังจากที่มีแนวโน้มลดลงหรือแนวโน้มตกต่ำก่อนหน้านี้ Bullish Engulfing ประกอบด้วยสองเทียนเท่านั้น แท่งเทียนแรกจะเป็นเทียนที่มีลักษณะเป็นเทียนแก่นต่ำ (อาจเป็นเทียนแท่งเทียนตกต่ำหรือเทียนแท่งเทียนกลับขึ้นน้อย) และราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของเทียนก่อนหน้านี้ และเทียนที่สอง เป็นเทียนที่มีลักษณะเป็นเทียนแก่นสูง (อาจเป็นเทียนแท่งเทียนขึ้นหรือเทียนแท่งเทียนกลับลงน้อย) และราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของเทียนแรก
การเกิด Bullish Engulfing แสดงถึงการกลืนกินหรือการครอบงำแท่งแรกด้วยแท่งที่สอง และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะขึ้นขึ้น นักลงทุนอาจพิจารณาที่จะซื้อหรือเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ในช่วงนั้น การรับรองสัญญาณนี้อาจเริ่มขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนต่อมา (สีเขียว) ที่ยืนยันโดยการมี body ยาวขึ้นและมีการกลืนกินแท่งแรกอย่างชัดเจน นี่ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะเริ่มขึ้นและผู้ลงทุนอาจพิจารณาที่จะซื้อหรือเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ในช่วงนั้น แนวโน้มบางครั้งถูกใช้ในการตัดสินใจการเข้าซื้อหรือขายสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ในตลาดทางการเงินในระยะสั้นหรือระยะยาว
รูปแบบกราฟแท่งเทียน Bullish Engulfing
Bullish Engulfing แสดงถึงแนวโน้มที่ราคาของตลาดกำลังเริ่มขึ้น (Bullish) โดยแท่งที่สองกลืนกินหรือครอบงำแท่งแรก และมี body ยาวกว่าแท่งแรก เป็นสัญญาณที่นักลงทุนอาจพิจารณาใช้ในการตัดสินใจซื้อหรือเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ในตลาดทางการเงิน เนื่องจากมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นตามแนวโน้มนี้ต่อไป โดยอธิบายรูปแบบกราฟแท่งเทียน Bullish Engulfing ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งดังนี้
- แท่งแรก (Bearish Candle):เป็นแท่งเทียนในกราฟแท่งเทียนที่แสดงถึงความแข็งของตลาดและแนวโน้มที่ราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์กำลังลดลงหรือมีแนวโน้มตกต่ำ. ตัวแท่งแรกมักมีสีแดง (หรือสีดำ) และมีลักษณะเป็นแท่งเทียนแก่น (อาจเป็นแท่งเทียนตกต่ำ) ลักษณะของแท่งแรก (Bearish Candle) ดังนี้
- สี: แท่งแรกมีสีแดง (หรือสีดำ) เพื่อแสดงว่าราคาปิด (Closing Price) ต่ำกว่าราคาเปิด (Opening Price) ในช่วงเวลาที่แท่งเทียนนั้นแสดงข้อมูล (ย้อนหลังหรือย้อนขึ้นมา).
- ลักษณะแท่ง: แท่งแรกมักมีลักษณะเป็นแท่งเทียนแก่น หรือมีขนาด body ที่สั้น เนื่องจากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดหมายถึงการขายเปิดต่ำกว่าราคาเมื่อเปิดตลาดและมีความกดดันขายในช่วงนี้.
- Shadow (แงดน้ำหนัก): แท่งแรกอาจมี shadow ด้านบนและด้านล่าง แสดงถึงราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดที่ราคาได้เคลื่อนที่ไปในช่วงเวลานั้น แต่คำว่าแท่งแรกเน้นไปที่ body ที่แสดงความแข็งของตลาด.
- ลักษณะโดยรวม: แท่งแรกสร้างรูปแบบที่มักจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มลดลงหรือแนวโน้มตกต่ำในตลาด แนวโน้มนี้บ่งบอกว่าราคามีแนวโน้มลงต่อจากการเปิดตลาด.
- แท่งที่สอง (Bullish Candle):แท่งที่สอง (Bullish Candle) เป็นแท่งเทียนที่ปรากฏหลังจากแท่งแรก (Bearish Candle) ในกราฟแท่งเทียนแบบ Bullish Engulfing แท่งที่สองมักมีลักษณะเป็นแท่งสีเขียวและมีลักษณะเป็นแท่งเทียนแก่น ต่อไปนี้คือลักษณะที่สำคัญของแท่งที่สอง:
- สี: แท่งที่สองมีสีเขียว เพื่อแสดงว่าราคาปิด (Closing Price) สูงกว่าราคาเปิด (Opening Price) ในช่วงเวลาที่แท่งเทียนแสดงข้อมูล นี่เป็นสัญญาณว่าราคาขึ้นมาจากราคาเปิดและมีความกดดันซื้อในช่วงนี้.
- ลักษณะแท่ง: แท่งที่สองมักมีลักษณะเป็นแท่งเทียนแก่น หรือมีขนาด body ยาว เป็นแท่งที่มี body ยาวกว่าแท่งแรก (Bearish Candle) และมักแท่งที่สองจะครอบงำหรือกลืนกินแท่งแรกไป.
- ราคาเปิดและปิด: ราคาเปิดของแท่งที่สองต้องต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก แสดงถึงการเริ่มการซื้อในระดับที่ต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งแรกแต่ราคาปิดของแท่งที่สองสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก.
- Shadow : แท่งที่สองอาจมี shadow ด้านบนและด้านล่าง แสดงถึงราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดที่ราคาได้เคลื่อนที่ไปในช่วงเวลานั้น แต่ควรเน้นที่ body ของแท่งที่แสดงความแข็งของตลาด.
แท่งที่สองในรูปแบบ Bullish Engulfing เป็นส่วนสำคัญที่บ่งชี้ถึงการกลืนกินหรือครอบงำแท่งแรก และมี body ยาวกว่าแท่งแรก สัญญาณนี้บ่งบอกว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะเริ่มขึ้นและนักลงทุนอาจพิจารณาใช้สัญญาณนี้ในการตัดสินใจซื้อหรือเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ในตลาดทางการเงิน.
การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน Bullish Engulfing
การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน Bullish Engulfing เป็นกระบวนการที่นักลงทุนใช้เพื่อประเมินแนวโน้มของตลาดและตัดสินใจการลงทุนในตลาดทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้คือขั้นตอนการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน Bullish Engulfing:
- การระบุ Bullish Engulfing:ค้นหาคู่สกุลเงินหรือหลักทรัพย์ที่แสดงกราฟแท่งเทียน และระบุว่ามีรูปแบบ Bullish Engulfing ที่เกิดขึ้นบนกราฟ และตรวจสอบกราฟแท่งเทียนเพื่อค้นหารูปแบบ Bullish Engulfing ที่ปรากฏบนกราฟ ต้องมีแท่งแรกที่เป็นแท่งเทียน Bearish (สีแดงหรือสีดำ) และแท่งที่สองที่เป็นแท่งเทียน Bullish (สีเขียว) โดยแท่งที่สองจะต้องมี body ยาวกว่าแท่งแรกและครอบงำแท่งแรกไป.
- การตรวจสอบราคาเปิดและปิด:ตรวจสอบราคาเปิดและปิดของแท่งแรกและแท่งที่สอง เราต้องการให้ราคาเปิดของแท่งที่สองต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก และราคาปิดของแท่งที่สองสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก.
- การสังเกตลักษณะของแท่ง:แท่งที่สองควรมี body ยาวและมักจะครอบงำหรือกลืนกินแท่งแรก ความยาวของ body แท่งที่สองบ่งชี้ถึงความแข็งของการซื้อในช่วงนี้ และตรวจสอบ Shadow ด้านบนและด้านล่างของแท่งที่สองเพื่อดูราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดที่ราคาได้เคลื่อนที่ในช่วงนี้ แต่ควรเน้นที่ body ของแท่งที่แสดงความแข็งของตลาด.
- การยืนยันแนวโน้ม:หากคุณต้องการยืนยันแนวโน้ม Bullish Engulfing และเพิ่มความมั่นใจในสัญญาณนี้ คุณอาจรอดูกราฟแท่งที่ตามมาอีกครั้ง เพื่อดูว่าแท่งที่สาม (หรือแท่งที่ตามมา) ยังคงแสดงแนวโน้มขึ้นและมี body ยาว.
- การตัดสินใจการลงทุน:หลังจากตรวจสอบรูปแบบ Bullish Engulfing และพิจารณาทุกขั้นตอนข้างต้น คุณสามารถตัดสินใจซื้อหรือเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ในตลาดหากคุณมีความมั่นใจในการวิเคราะห์ของคุณและสัญญาณ Bullish Engulfing ดูเหมาะสมกับแผนการลงทุนของคุณ. อย่าลืมใช้การจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบในการทำธุรกรรมในตลาดทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์
เงื่อนไขการเป็น Bullish Engulfing
การวิเคราะห์ Bullish Engulfing จะช่วยให้คุณมีภาพรวมที่ครอบคลุมและมั่นใจในการตัดสินใจในการเทรดในตลาดทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์ โดยเงื่อนไขการเป็น Bullish Engulfing สามารถรวมเป็นขั้นตอนการวิเคราะห์และตรวจสอบสัญญาณนี้ได้ดังนี้:
- เทรนเป็นแนวโน้มขาลงมาก่อน: การ Bullish Engulfing มักเป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นหลังจากมีเทรนที่แสดงถึงแนวโน้มขาลง (Bearish Trend) ในตลาดมาก่อน นั่นหมายความว่าราคามีแนวโน้มตกต่ำกว่าในระยะเวลาก่อนหน้านี้.
- เนื้อเทียนแท่งขาขึ้นจะต้องกลืนกินแท่งก่อนหน้า: ในรูปแบบ Bullish Engulfing แท่งที่สอง (แท่งเทียน Bullish) จะต้องมี body ยาวและครอบงำหรือกลืนกินแท่งก่อนหน้า (แท่งแรก) ทั้งนี้ราคาปิดของแท่งที่สองต้องสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก.
- ควรเกิดในแนวรับที่แข็งแรง: Bullish Engulfing มักเป็นสัญญาณที่มีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อเกิดในแนวรับ (Support) ที่แข็งแรง ที่นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะซื้อหรือสนับสนุนราคาในระดับนั้น.
- การเทรดควรรอ แท่งสัญญานขาขึ้น Confirm อีกครั้งหนึ่ง: การเทรดควรรอรับรองสัญญาณโดยการตรวจสอบแท่งเทียนที่ตามมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้น หากแท่งต่อไปยังแสดงความแข็งของการขาขึ้นและยืนยันสัญญาณ Bullish Engulfing นั้น นักลงทุนอาจพิจารณาใช้สัญญาณนี้ในการตัดสินใจซื้อหรือเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ในตลาด.
- ปริมาณการซื้อ: การตรวจสอบปริมาณการซื้อขายในช่วงที่เกิด Bullish Engulfing อาจช่วยให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นในสัญญาณนี้. ควรดูว่ามีปริมาณการซื้อที่มากขึ้นในแท่งที่สอง (Bullish Candle) เมื่อเทียบกับแท่งแรก (Bearish Candle) เพื่อให้คุณมั่นใจว่ามีความสนใจจากนักลงทุนในการซื้อและสนับสนุนการขาขึ้น.
- หาก Bullish Engulfing เกิดขึ้นหลังจากข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญ: หาก Bullish Engulfing เกิดขึ้นหลังจากข่าวสารหรือเหตุการณ์ที่สำคัญที่อาจมีผลต่อตลาด ควรพิจารณาการลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากข่าวสารหรือเหตุการณ์เหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อความมั่นใจของการเปิดทำการซื้อ.
การเข้าออเดอร์จาก Bullish Engulfing
การเข้าออเดอร์จาก Bullish Engulfing ต้องใช้วิจารณญาณและกำหนดกฎระเบียบอย่างรอบคอบ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ดังนี้คือขั้นตอนการเข้าออเดอร์จาก Bullish Engulfing:
- ตรวจสอบแนวโน้มเดิม: เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด การ Bullish Engulfing มักเป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มเดิมเป็นขาลง (Bearish Trend) โปรดให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อให้มั่นใจว่ามีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลง.
- ระบุบริเวณแนวรับที่แข็งแรง: หากคุณพบสัญญาณ Bullish Engulfing ในแนวรับที่แข็งแรง (Support) ที่ราคามีความน่าจะเปลี่ยนแปลง จะเป็นที่น่าสนใจมาก. ในบริเวณนี้คุณสามารถวาง Stop Loss ไว้ใต้ก้นของแท่ง Bullish Engulfing หรือห่างไปประมาณ 10-15 pips เพื่อความปลอดภัย.
- รอยืนยันด้วยแท่ง Bullish ต่อไป: การเข้าออเดอร์ควรรอจนกราฟแสดงแท่ง Bullish ต่อไปที่ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นเพิ่มเติม ในกรณีนี้คุณจะต้องรอจนกราฟแสดงแท่ง Bullish อีกครั้งเพื่อยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นเป็นจริง.
- กำหนดระดับ Take Profit: เมื่อคุณเข้าออเดอร์และมีการยืนยันแนวโน้มขาขึ้น คุณควรกำหนดระดับ Take Profit ที่ใกล้กับแนวต้าน (Resistance) ในการกำหนดจุดเป้าหมายของคุณ.
- การจัดการความเสี่ยง: อย่าลืมจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ใช้ Stop Loss เพื่อป้องกันความสูญเสียที่ไม่คาดคิดและใช้การบริหารความเสี่ยงให้ความสำคัญ.