FBS ดีไหม รีวิวข้อดีข้อเสียอย่างละเอียด 2024

FBS เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2009 และได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยและทั่วโลก แต่ FBS ดีจริงหรือไม่? บทความนี้จะวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของ FBS อย่างละเอียดเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าเหมาะสมกับคุณหรือไม่

FBS ดีไหม

ข้อดี:

  1. เลเวอเรจสูง: FBS เสนอเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:3000 ซึ่งสูงกว่าโบรกเกอร์หลายราย ทำให้นักลงทุนสามารถเปิดการเทรดขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนที่จำกัดได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังในการใช้เลเวอเรจสูง เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างรวดเร็วเช่นกัน
  1. ความหลากหลายของบัญชีและผลิตภัณฑ์: FBS มีประเภทบัญชีและผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกได้ตามความต้องการและระดับประสบการณ์
  2. แพลตฟอร์มที่หลากหลาย: การรองรับทั้ง MT4, MT5 และแอพมือถือ FBS Trader ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ตนเองถนัดได้
  3. โบนัสและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ: FBS มีโปรโมชั่นมากมาย เช่น โบนัสเงินฝาก 100% และโบนัสไม่ต้องฝากเงิน ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนบางกลุ่ม
  4. การฝากถอนที่หลากหลาย: รองรับวิธีการฝากถอนหลายรูปแบบ รวมถึงการโอนผ่านธนาคารท้องถิ่นในหลายประเทศ
  5. การสนับสนุนหลายภาษา: เว็บไซต์และการบริการลูกค้ารองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้สะดวกสำหรับนักลงทุนไทย
FBS ดีไหม
FBS ดีไหม

ข้อเสีย:

  1. ปัญหาด้านความเสถียรของแพลตฟอร์ม: มีรายงานจากผู้ใช้บางส่วนว่า FBS Trader มีปัญหาด้านความเสถียร โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
  1. ข้อจำกัดด้านการให้บริการในบางประเทศ: ลูกค้าจากบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และบางประเทศในสหภาพยุโรป อาจไม่สามารถใช้บริการ FBS ได้
  2. ค่าธรรมเนียมที่ซ่อนอยู่: แม้ว่า FBS จะโฆษณาว่ามีค่าสเปรดต่ำ แต่บางบัญชีอาจมีค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุชัดเจน
  3. การถอนเงินอาจใช้เวลานาน: มีรายงานจากผู้ใช้บางรายว่าการถอนเงินอาจใช้เวลานานกว่าที่ระบุไว้ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นจำนวนเงินมาก
  4. ข้อจำกัดของเครื่องมือวิเคราะห์: แพลตฟอร์ม FBS Trader มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จำกัดเมื่อเทียบกับ MT4 หรือ MT5
  5. ความโปร่งใสของการดำเนินงาน: มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินงานของ FBS ในบางประเด็น เช่น การไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของบริษัทอย่างชัดเจน

ภาพรวมและข้อมูลทั่วไปของโบรกเกอร์ FBS

FBS ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยกลุ่มนักลงทุนที่มีความสนใจในการศึกษาและวิจัยด้านการเทรดและการวิเคราะห์ทางเทคนิค สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลีซ ให้บริการด้านการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) และสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) แก่ลูกค้าทั่วโลกอย่างครบวงจร

FBS
FBS

ปัจจุบัน FBS เป็นโบรกเกอร์ระดับสากลที่ให้บริการในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก มีลูกค้ามากกว่า 27 ล้านคนและพาร์ทเนอร์กว่า 700,000 ราย FBS มีชื่อเสียงในด้านการให้บริการที่ครอบคลุม เงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น และโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากมาย

ใบอนุญาตที่โบรกเกอร์ FBS ได้รับ

การพิจารณาว่า FBS ดีหรือไม่นั้น ต้องเริ่มจากการตรวจสอบใบอนุญาตและการกำกับดูแลเป็นอันดับแรก FBS ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานดังต่อไปนี้:

ความน่าเชื่อถือ FBS
ความน่าเชื่อถือ FBS
  • FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/6
  • ได้รับการกำกับควบคุมโดย IFSC (International Financial Services Commission) ของประเทศเบลีซ ใบอนุญาตเลขที่ 000102/460
  • Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) หรือคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไซปรัส หมายเลขที่ 331/17

⚠️ คำเตือน: ใบอนุญาต CySEC ใช้ได้เฉพาะกับเว็บไซต์ www.fbs.eu ซึ่งจดทะเบียนภายใต้ชื่อบริษัท Tradestone Ltd เท่านั้น

การได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า FBS มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักว่าการกำกับดูแลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และควรศึกษาเงื่อนไขการคุ้มครองนักลงทุนในแต่ละเขตอำนาจศาลอย่างละเอียด

ผลิตภัณฑ์และบริการจากโบรกเกอร์ FBS

ผลิตภัณฑ์การเทรด

FBS นำเสนอผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลายให้นักลงทุนได้เลือกตามความต้องการและกลยุทธ์การลงทุน โดยมีสินทรัพย์ให้เลือกมากกว่า 500 รายการ ประกอบด้วย:

FBS เทรดอะไรได้บ้าง
FBS เทรดอะไรได้บ้าง
  1. Forex: คู่สกุลเงินหลักและคู่สกุลเงินรอง เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD เป็นต้น
  2. CFD บนหุ้น: หุ้นของบริษัทชั้นนำจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
  3. CFD บนดัชนีหุ้น: ดัชนีหุ้นสำคัญ เช่น S&P 500, NASDAQ, DAX เป็นต้น
  4. โลหะมีค่า: ทองคำและเงิน
  5. พลังงาน: น้ำมันดิบ WTI และ Brent
  6. คริปโตเคอร์เรนซี: Bitcoin, Ethereum และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การลงทุนของตนเองได้

แพลตฟอร์มการเทรดของ FBS

FBS นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ ได้แก่:

FBS MT4 MT5 APP
FBS MT4 MT5 APP
  1. MetaTrader 4 (MT4): แพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคครบครัน เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพ
  2. MetaTrader 5 (MT5): รุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การเทรดหลายตลาด การซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ และการทำธุรกรรมในตลาดหุ้นโดยตรง
  3. FBS Trader: แอปพลิเคชันมือถือที่พัฒนาโดย FBS เอง ใช้งานง่ายผ่านสมาร์ทโฟน มีฟีเจอร์ครบถ้วนสำหรับการเทรดและจัดการบัญชี สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ iOS

แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน นักลงทุนสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดและความชำนาญของตนเองได้

⚠️ คำเตือน: มีรายงานจากผู้ใช้งานบางส่วนว่า FBS Trader มีปัญหาด้านความเสถียร โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ทำให้การส่งคำสั่งซื้อขายอาจเกิดความล่าช้าหรือไม่ได้รับการยืนยัน นอกจากนี้ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคบนแพลตฟอร์มนี้ยังมีจำกัดเมื่อเทียบกับ MT4 หรือ MT5

ประเภทบัญชีของโบรกเกอร์ FBS ไหนดี

FBS นำเสนอบัญชีเทรดหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้:

ประเภทบัญชี FBS ไหนดี
ประเภทบัญชี FBS ไหนดี
  1. บัญชี Standard Account
    • เงินฝากขั้นต่ำ: 100 ดอลลาร์สหรัฐ
    • สกุลเงินบัญชี: USD, EUR, JPY
    • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนทั่วไปที่ต้องการเงื่อนไขการเทรดมาตรฐาน
    • ข้อควรระวัง: มีค่าสเปรดค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบัญชีประเภทอื่น
  2. บัญชี Zero Spread Account
    • เงินฝากขั้นต่ำ: 500 ดอลลาร์สหรัฐ
    • สกุลเงินบัญชี: USD, EUR, JPY
    • เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่ต้องการค่าสเปรดต่ำหรือเป็นศูนย์
    • ข้อควรระวัง: มีค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรดแทนค่าสเปรด
  3. บัญชี ECN Account
    • เงินฝากขั้นต่ำ: 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    • สกุลเงินบัญชี: USD เท่านั้น
    • เหมาะสำหรับ: นักเทรดมืออาชีพที่ต้องการการดำเนินการที่รวดเร็วและราคาที่แม่นยำ
    • ข้อควรระวัง: มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงกว่าบัญชีประเภทอื่น
  4. บัญชี Crypto Account
    • เงินฝากขั้นต่ำ: 1 ดอลลาร์สหรัฐ
    • สกุลเงินบัญชี: USDT (Tether)
    • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่สนใจเทรดคริปโตเคอร์เรนซี
    • ข้อควรระวัง: ความผันผวนสูงของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
  5. บัญชี Cent Account
    • เงินฝากขั้นต่ำ: 1 ดอลลาร์สหรัฐ
    • สกุลเงินบัญชี: USD, EUR, JPY
    • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ
    • ข้อควรระวัง: มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณการเทรดและสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น เงินทุน ประสบการณ์การเทรด และกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบและอาจทดลองใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนเปิดบัญชีจริง

การฝาก-ถอนเงินกับ FBS

การฝากและถอนเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ FBS นำเสนอวิธีการฝากถอนที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ

วิธีการฝากเงิน

  1. บัตรเครดิต/เดบิต: Visa, MasterCard
  2. การโอนเงินผ่านธนาคาร
  3. E-wallets: Skrill, Neteller, Perfect Money
  4. การโอนเงินผ่านระบบท้องถิ่น: สำหรับประเทศไทยรองรับการโอนผ่านธนาคารหลักหลายแห่ง
  5. Cryptocurrency: Bitcoin และ Ethereum
ฝากถอน FBS
ฝากถอน FBS

วิธีการถอนเงิน

วิธีการถอนเงินจะคล้ายคลึงกับวิธีการฝากเงิน โดยส่วนใหญ่จะต้องถอนผ่านช่องทางเดียวกับที่ใช้ฝาก

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฝาก-ถอนเงิน

fbs ถอนเงิน
fbs ถอนเงิน
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงินสำหรับ
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงินสำหรับวิธีการฝากเงินส่วนใหญ่ ยกเว้นการโอนผ่านธนาคารบางแห่งอาจมีค่าธรรมเนียม
  • การถอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับวิธีการถอนและจำนวนเงิน โดยเฉพาะการถอนผ่านบัตรเครดิต/เดบิตอาจมีค่าธรรมเนียมสูงถึง 5%
  • เวลาในการดำเนินการฝากเงินส่วนใหญ่จะทันที ยกเว้นการโอนผ่านธนาคารอาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ
  • การถอนเงินอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 ถึง 5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับวิธีการถอนและจำนวนเงิน
  • มีการจำกัดจำนวนเงินในการถอนต่อวัน โดยขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและวิธีการถอน
  • อาจมีการขอเอกสารยืนยันตัวตนเพิ่มเติมสำหรับการถอนเงินจำนวนมาก เพื่อป้องกันการฟอกเงิน

ข้อควรระวัง: มีรายงานจากผู้ใช้บางรายว่าการถอนเงินจำนวนมากอาจใช้เวลานานกว่าที่ระบุไว้ และอาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติมที่ซับซ้อน ดังนั้นนักลงทุนควรวางแผนการถอนเงินล่วงหน้าและเตรียมเอกสารให้พร้อม

การบริการลูกค้าของ FBS

การบริการลูกค้าที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ FBS นำเสนอการสนับสนุนลูกค้าผ่านหลายช่องทาง:

FBS ติดต่อเจ้าหน้าที่
FBS ติดต่อเจ้าหน้าที่
  1. Live Chat: ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย
  2. อีเมล: สามารถส่งคำถามหรือปัญหาผ่านอีเมลได้ตลอดเวลา
  3. โทรศัพท์: มีหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อในหลายประเทศ
  4. Social Media: ให้บริการผ่าน Facebook, Twitter และ LINE สำหรับลูกค้าในประเทศไทย

ข้อดีของการบริการลูกค้า FBS:

  • รองรับหลายภาษา ทำให้สะดวกสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
  • มีเจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการ
  • มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย

ข้อควรปรับปรุง:

  • บางครั้งอาจใช้เวลานานในการตอบคำถามที่ซับซ้อน
  • คุณภาพการให้บริการอาจไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่แต่ละคน

การฝึกอบรมและการศึกษา

FBS ให้ความสำคัญกับการศึกษาและพัฒนาทักษะของนักลงทุน โดยนำเสนอทรัพยากรการเรียนรู้มากมาย:

fbs การเรียนการสอน
fbs การเรียนการสอน
  1. บทความและบทวิเคราะห์ตลาด: อัปเดตสถานการณ์ตลาดและบทวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นประจำ
  2. วิดีโอสอน: มีวิดีโอสอนการใช้งานแพลตฟอร์มและกลยุทธ์การเทรด
  3. เว็บบินาร์: จัดสัมมนาออนไลน์เป็นประจำโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
  4. คู่มือการเทรด: มีคู่มือแนะนำการเทรดตั้งแต่ระดับพื้นฐานถึงขั้นสูง
  5. ปฏิทินเศรษฐกิจ: แสดงข้อมูลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

ทรัพยากรการเรียนรู้เหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และยังช่วยให้นักลงทุนที่มีประสบการณ์สามารถพัฒนาทักษะและติดตามสถานการณ์ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

สรุป: FBS ดีไหม?

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด สามารถสรุปได้ว่า FBS เป็นโบรกเกอร์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย:

ข้อดี:

  • มีใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
  • นำเสนอผลิตภัณฑ์และบัญชีที่หลากหลาย
  • มีเลเวอเรจสูงถึง 1:3000
  • รองรับหลายภาษาและมีการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
  • มีทรัพยากรการเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์

ข้อเสีย:

  • มีรายงานปัญหาเรื่องความเสถียรของแพลตฟอร์ม FBS Trader
  • การถอนเงินอาจใช้เวลานานในบางกรณี
  • ค่าธรรมเนียมบางอย่างอาจไม่ชัดเจน
  • ข้อจำกัดในการให้บริการในบางประเทศ

โดยสรุปแล้ว FBS อาจเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเลเวอเรจสูงและมีความเข้าใจในความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการทรัพยากรการเรียนรู้ที่ครบครัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังและศึกษาเงื่อนไขต่างๆ อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีจริง

สุดท้ายนี้ การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเทรดของแต่ละบุคคล นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ และอาจทดลองใช้บัญชีทดลองก่อนเปิดบัญชีจริงเพื่อให้มั่นใจว่า FBS เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับตนเองจริงๆ