Hedge Fund คืออะไร
Hedge Fund หรือ กองทุนเฮ็จ หรือ กองทุนเก็งกำไรความเสี่ยง คือ กองทุนรวมที่จัดการโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนสูงสำหรับนักลงทุนของตน กองทุนเฮ็จมักจะใช้วิธีการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งการลงทุนในหลายประเภทของสินทรัพย์ เช่น หุ้น, พันธบัตร, สินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ หรือแม้แต่สินทรัพย์ที่ไม่ใช่การเงิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการใช้เครื่องมือการเงินซับซ้อน เช่น ออปชั่น, ฟิวเจอร์ส, หรือลีเวอเรจ (การยืมเงินเพื่อลงทุน)
เนื่องจากกองทุนเฮ็จมักจะมีการจัดการที่มากมาย และใช้เทคนิคที่ซับซ้อน จึงต้องการค่าจัดการและค่าธรรมเนียมสูง ส่วนใหญ่จะถูกจัดตั้งขึ้นในรูปแบบที่ค่อนข้างไม่เปิดเผย และมักจะเปิดรับเฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติ เช่น นักลงทุนรายย่อยที่มีสินทรัพย์สูง หรือนักลงทุนสถาบัน
การลงทุนในกองทุนเฮ็จเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง แต่ก็มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน ควรหมั่นเอาใจใส่และทำการวิจัยละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุน และอาจต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง
Hedge Fund มีลักษณะอย่างไร
กองทุนเฮ็จ (Hedge Fund) คือ กองทุนรวมพิเศษที่รวบรวมเงินจากนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง เพื่อนำไปลงทุนในประเภทสินทรัพย์หลายประเภท โดยมีเป้าหมายหลักในการผลิตผลตอบแทนที่สูง ของกองทุนเฮ็จมีลักษณะดังนี้
โครงสร้างองค์กร
โดยทั่วไป กองทุนเฮ็จจะมีผู้จัดการกองทุนหรือทีมผู้จัดการกองทุนที่รับผิดชอบในการตัดสินใจการลงทุน ภายใต้พวกเขาจะมีนักวิเคราะห์, นักซื้อขาย, และบุคลากรด้านการดำเนินการ
กลยุทธ์การลงทุน
กองทุนเฮ็จมีกลยุทธ์การลงทุนหลายแบบ เช่น การลงทุนในหุ้นแบบ long/short, การลงทุนตามเหตุการณ์ (event-driven), การลงทุนแบบ macro และอื่น ๆ
เอกสารและข้อตกลง
กองทุนเฮ็จมักมีเอกสารที่กำกับการดำเนินงาน รวมถึงคู่มือการลงทุน, ข้อตกลงการสมัครสมาชิก, และข้อตกลงห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทความรับผิดชอบจำกัด
ค่าธรรมเนียมและผลการดำเนินงาน
กองทุนเฮ็จมักเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการจัดการและผลการดำเนินงาน โดยทั่วไปจะเป็น “2 และ 20” หมายถึง ค่าธรรมเนียมการจัดการ 2% และค่าธรรมเนียมจากผลกำไร 20%
ฐานนักลงทุน
กองทุนเฮ็จมักจะมีนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินสูง, สำนักงานครอบครัว, หรือกองทุนบำเหน็จ
การรายงาน
กองทุนเฮ็จมักมีการรายงานประจำปี หรือประจำไตรมาส แต่อาจจะไม่โปร่งใสเท่ากับกองทุนรวม
การควบคุม
ในประเทศบางแห่ง กองทุนเฮ็จต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลการเงิน แต่จะมีข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลที่น้อยกว่ากองทุนรวม
กลยุทธ์ที่ใช้ในกองทุนป้องกันความเสี่ยง Hedge Fund
กองทุนป้องกันความเสี่ยงใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุน
Long/Short Equity
กลยุทธ์นี้รวมถึงการซื้อหุ้น (“going long”) ที่คาดว่าจะเพิ่มมูลค่า ในขณะที่ขายหุ้นที่คาดว่าจะลดมูลค่า (shorting) ไปพร้อม ๆ กัน ปัจจัยหลักคือการผลิตผลตอบแทนที่เป็นบวกไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
Event-Driven
ในกลยุทธ์นี้ กองทุนเฮ็จจะลงทุนตามเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เช่น การรวมกิจการ, การซื้อขายบริษัท, หรือการล้มละลายของบริษัท ตัวอย่างเช่น การซื้อหุ้นของบริษัทที่เป็นเป้าหมายสำหรับการซื้อขาย และคาดว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นเมื่อการซื้อขายถูกประกาศ
Market Neutral
กลยุทธ์ Market Neutral มีเป้าหมายในการหาผลกำไรจากความไม่เป็นธรรมของราคาในตลาด โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงจากทิศทางของตลาดทั้งหมด ตัวอย่างคือการซื้อหุ้นของบริษัท A และขายหุ้นของบริษัท B ที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ด้วยความคาดหวังว่าราคาของทั้งสองจะเข้าใกล้หรือเบี่ยงห่างจากกัน
Convertible Arbitrage
การลงทุนในหลักทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นหุ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรที่สามารถแปลง) และการขายขาดหุ้นที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสี่ยง หวังเพียงที่จะได้ผลกำไรจากความไม่สอดคล้องของราคาระหว่างพันธบัตรแปลงและหุ้นที่เกี่ยวข้อง
Global Macro
กลยุทธ์นี้เดิมพันกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในวงกว้าง การลงทุนอาจเป็นสกุลเงิน อัตราดอกเบี้ย สินค้าโภคภัณฑ์ หรือตราสารทุน ท่ามกลางสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
Quantitative
ใช้ขั้นตอนวิธีและโมเดลคณิตศาสตร์เพื่อค้นหาโอกาสในการลงทุน อาจจะทำการซื้อขายหลายประเภทของสินทรัพย์และมีระยะเวลาการลงทุนที่สั้น
Fixed Income Arbitrage
กลยุทธ์นี้มุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของราคาในหลักทรัพย์ที่มีตราสารหนี้ ตัวอย่างเช่น กองทุนเฮ็จอาจเปิดสถานะซื้อพันธบัตรองค์กร ในขณะที่ขายพันธบัตรรัฐบาล โดยเดิมพันว่าพันธบัตรองค์กรจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่า
Credit Strategies
กลยุทธ์นี้เน้นไปที่สินทรัพย์ที่มีรายได้คงที่ โดยการถือตำแหน่งในพันธบัตร สินเชื่อ หรือหลักทรัพย์หนี้อื่น ๆ กลยุทธ์นี้อาจมีแนวโน้มที่ยึดถือระยะยาว (long-biased) หรือยึดถือระยะสั้น (short-biased) และอาจจะเกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงหรือหนี้ที่มีความเสี่ยง
Managed Futures
หรือที่เรียกว่า CTA funds, กองทุนเฮ็จแนวนี้เน้นไปที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (futures contracts) อาจใช้กลยุทธ์ที่ตามแนวโน้ม (trend-following) หรือถือตำแหน่งที่ตรงข้ามกับความเป็นมา (contrarian) โดยอาศัยตัวบ่งชี้โมเมนตัม (momentum indicators)
Volatility Arbitrage
กลยุทธ์นี้ค้นหาผลกำไรจากความแตกต่างระหว่างความผันผวนที่บ่งชี้โดยตัวเลือก (options) และความผันผวนที่เกิดขึ้นจริงของสินทรัพย์ตั้งต้น มักจะเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายตัวเลือกและสินทรัพย์ตั้งต้นในเวลาเดียวกัน
Fund of Funds
กองทุนเฮ็จที่ใช้กลยุทธ์นี้จะลงทุนในกองทุนเฮ็จอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้สามารถหลากหลายการลงทุนได้ แต่มักจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นเป็นชั้นๆ
ตัวอย่างรายชื่อกองทุนที่มีชื่อเสียง
Renaissance Technologies
-
- กลยุทธ์: ควอนติทาทีฟ (Quantitative)
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Jim Simons ในปี 1982 โดยเป็นที่รู้จักดีในกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึม กองทุน Medallion ซึ่งเป็นกองทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดของทางบริษัท มีผลตอบแทนรายปีที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม แต่ปิดไม่รับนักลงทุนภายนอก
Bridgewater Associates
-
- กลยุทธ์: Global Macro
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Ray Dalio ในปี 1975 และเป็นหนึ่งในกองทุนเฮ็จที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อเสียงจากกลยุทธ์ “Pure Alpha” และ “All Weather”
Citadel
-
- กลยุทธ์: หลายกลยุทธ์ (Multi-strategy)
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Ken Griffin ในปี 1990 และใช้กลยุทธ์การลงทุนหลายประเภท มีชื่อเสียงในการซื้อขายความถี่สูง (high-frequency trading)
Pershing Square Capital Management
-
- กลยุทธ์: Activist
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Bill Ackman ในปี 2004 เป็นกองทุนเฮ็จแนว Activist ที่จะซื้อหุ้นบริษัทที่มีประสิทธิภาพต่ำแล้วขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น
Two Sigma
-
- กลยุทธ์: ควอนติทาทีฟ (Quantitative)
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย John Overdeck และ David Siegel ในปี 2001 มีชื่อเสียงในการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการลงทุน
Elliott Management
-
- กลยุทธ์: Multi-strategy, รวมถึง Activist และ Distressed Debt
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Paul Singer ในปี 1977 มีชื่อเสียงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในบริษัทและการลงทุนในหนี้ที่มีความเสี่ยง
AQR Capital Management
-
- กลยุทธ์: Quantitative
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Cliff Asness ในปี 1998 AQR ย่อมาจาก “Applied Quantitative Research” บริษัทมีชื่อเสียงในด้านแนวทางการลงทุนเชิงวิชาการ และนำเสนอกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ขับเคลื่อนเชิงปริมาณและกลยุทธ์การลงทุนแบบดั้งเดิมที่หลากหลาย
Point72 Asset Management
-
- กลยุทธ์: Long/Short Equity
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Steven A. Cohen ในชื่อ S.A.C. Capital Advisors กองทุนถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Point72 หลังจากยุติข้อกล่าวหาเรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน โดยมุ่งเน้นที่การลงทุนในหุ้นระยะยาว/ระยะสั้นตามดุลยพินิจเป็นหลัก และใช้วิธีการวิจัยที่เข้มงวด
Baupost Group
-
- กลยุทธ์: Value Investing
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย Seth Klarman ในปี 1982 Baupost Group มีชื่อเสียงในด้านปรัชญาการลงทุนที่มุ่งเน้นมูลค่า บริษัทมีมุมมองระยะยาวและเป็นที่รู้จักในการถือครองเงินสดจำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จากภาวะตลาดตกต่ำ
Greenlight Capital
-
- กลยุทธ์: Long/Short Equity
- รายละเอียด: ก่อตั้งโดย David Einhorn ในปี 1996 Greenlight Capital ใช้วิธีการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน Einhorn เป็นที่รู้จักจากการวิจัยอย่างละเอียด และกลายเป็นหัวข้อข่าวเกี่ยวกับตำแหน่ง Short ในที่สาธารณะของเขา ซึ่งรวมถึงการเดิมพันอันโด่งดังกับ Lehman Brothers ก่อนที่มันจะล่มสลาย