John (Jack) Bogle คือใคร
John C. Bogle หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Jack” Bogle คือผู้ก่อตั้ง The Vanguard Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสร้างขึ้นในปี 1975 ในสหรัฐอเมริกา ในปี 1976 บ๊อกเกิ้ลยังได้สร้าง First Index Investment Trust ซึ่งหลังจากนั้นกลายเป็น Vanguard 500 Index Fund และเป็นกองทุนสะสมผลตอบแทนตามดัชนี S&P 500 ที่แรกของโลก
ความสำเร็จของบริษัท Vanguard ส่วนใหญ่มาจากปรัชญาการลงทุนของบ๊อกเกิ้ล ที่เน้นค่าธรรมเนียมที่ต่ำและการลงทุนในระยะยาว โดยมีจุดเน้นคือการลงทุนในกองทุนที่ติดตามดัชนี (Index Funds) ซึ่งถือเป็นวิธีการลงทุนที่ปลอดภัยและมีค่าธรรมเนียมต่ำ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้นหรือเลือกผู้จัดการลงทุน
Bogle ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในวงการการเงินและได้เป็นผู้ริเริ่มหลายปรัชญาและนวัตกรรมในด้านการลงทุนที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อวงการ หลังจากเสียชีวิตในปี 2019 คุณค่าและอิทธิพลของเขายังคงถูกยกย่องและติดตาม
ในประเทศไทย แนวคิดและปรัชญาการลงทุนของบ๊อกเกิ้ลก็ได้รับความนิยมและถูกนำไปใช้ในการจัดการกองทุนและการลงทุนของบุคคล แม้ว่าอาจจะยังไม่ได้รับการยอมรับในระดับที่เทียบเท่ากับในสหรัฐอเมริกา
ประวัติของ John (Jack) Bogle
- John Clifton “Jack” Bogle เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1929 ณ เมือง Montclair, New Jersey สหรัฐอเมริกา
- ตระกูลของเขาเจริญรุ่งเรืองในช่วงแรก แต่ต่อมาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สิ้นเปลืองใหญ่ (Great Depression) ในทางการเงิน
- การสิ้นเปลืองในทางการเงินของครอบครัวเป็นแรงจูงใจให้เขามุ่งมั่นในการศึกษาและการทำงาน
- Bogle เข้าเรียนที่ Blair Academy โรงเรียนที่มีชื่อเสียงสำหรับระดับประถมและมัธยม
- หลังจากนั้น เขาได้เข้าประถมที่มหาวิทยาลัย Princeton ในรัฐ New Jersey
- ในระหว่างการศึกษาที่ Princeton เขาได้เขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการลงทุนสำหรับประชาชน
- วิทยานิพนธ์นั้นสร้างแรงบันดาลใจให้เขาสร้างบริษัท Vanguard Group และ Vanguard 500 Index Fund ในภายหลัง
- หลังจากจบการศึกษา เขาได้เข้าทำงานที่ Wellington Fund บริษัทที่เป็นหนึ่งในกองทุนรวมแบบมีผลกำไรที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐ
- ที่ Wellington เขาได้รับความรู้และประสบการณ์ในวงการลงทุน ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการสร้าง Vanguard Group
- Bogle เน้นถึงคุณค่าของการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงคุณลักษณะที่มีผลกระทบในวงการการเงินและการลงทุน คือ ความซื่อสัตย์ การทำงานอย่างหนักหน่วง และการให้บริการเพื่อประโยชน์ของสังคมและลูกค้า
- John Clifton “Jack” Bogle เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2019 ณ เมือง Bryn Mawr, Pennsylvania สหรัฐอเมริกา
การลงทุน John (Jack) Bogle
การลงทุนของ John “Jack” Bogle สร้างรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงวงการการเงินและการลงทุนอย่างถาวร ดังนี้
- Vanguard Group: ในปี 1974 Bogle ก่อตั้งบริษัท Vanguard Group โดยเน้นการจัดการกองทุนรวมในรูปแบบที่เป็นประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ลงทุน
- Index Fund: ในปี 1975 Bogle สร้าง Vanguard 500 Index Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมแทนที่ (index fund) แรกในโลก มีเป้าหมายเพื่อติดตามผลตอบแทนของ S&P 500
- การประหยัดค่าใช้จ่าย: Bogle เน้นความสำคัญของการประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุน โดยเน้นกองทุนรวมที่มีค่าคอมมิชชั่นและค่าจัดการที่ต่ำ
- การลงทุนระยะยาว: เขาสนับสนุนแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนระยะยาวและหลีกเลี่ยงการซื้อขายหุ้นอย่างบ่อยคล่อง ซึ่งสะท้อนในปรัชญาการลงทุนของ Vanguard
- การเป็นผู้นำด้านความคิดเห็น: Bogle ได้เป็นนักวิจารณ์และนักเขียนหลายเรื่องที่เกี่ยวกับวงการการเงินและการลงทุน โดยเรื่องราวและความคิดเห็นของเขามักถูกยกย่องว่าได้ช่วยแก้ปัญหาที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน
- สนใจในลูกค้า: Bogle เน้นความสำคัญของการให้บริการลูกค้าอย่างดีเยี่ยม และการสร้างค่าความไว้วางใจให้กับผู้ลงทุน
- ปรัชญา “Buy and Hold”: Bogle สนับสนุนการลงทุนแบบ “Buy and Hold” หรือการซื้อและถือหุ้นหรือกองทุนรวมในระยะยาว
- ผลกระทบในอุตสาหกรรม: ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีผลกระทบมากที่สุดในอุตสาหกรรมการลงทุน โดยเฉพาะในการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับกองทุนรวมแทนที่และค่าใช้จ่ายที่ต่ำ
- การตีความจากปรัชญาของเขา: การลงทุนที่สำเร็จไม่จำเป็นต้องซับซ้อน และผู้ลงทุนควรมีความเข้าใจและเลือกทางที่เรียบง่ายและต้นทุนต่ำ
ผลงาน John (Jack) Bogle
ผลงานของ John “Jack” Bogle หลากหลายและมีอิทธิพลอย่างมากในวงการการเงินและการลงทุน:
- Vanguard Group: ก่อตั้งบริษัท Vanguard Group ในปี 1974 ซึ่งขณะนี้เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- Vanguard 500 Index Fund: ในปี 1975 เปิดตั้งกองทุนรวมแทนที่ (Index Fund) แรกของโลก ซึ่งมีเป้าหมายในการติดตาม S&P 500
- การสร้างรูปแบบ: ได้สร้างรูปแบบใหม่ของการจัดการกองทุนรวม โดยการให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบริษัทและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ
- นักเขียนและนักวิจารณ์: เขียนหนังสือหลายเล่มที่ได้รับความนิยมอย่าง “The Little Book of Common Sense Investing”, “Common Sense on Mutual Funds” และ “Enough”
- การสื่อสารและการฝึกอบรม: มักจะถูกเชิญให้เป็นวิทยากรหรือบทความคอลัมนิสต์ในสื่อต่าง ๆ เพื่อแชร์ความคิดเห็นและปรัชญาของเขา
- รางวัลและเกียรติยศ: ได้รับรางวัลและเกียรติยศหลายอัน อาทิ “The Institutional Investor’s Lifetime Achievement Award” และถูกนำเข้าหอเกียรติยศการเงิน (Financial Analysts Journal’s Hall of Fame)
- สังคมและการบริหาร: ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งหรือเป็นกรรมการขององค์กรหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการศึกษา
- การแนะนำและให้คำปรึกษา: ให้คำปรึกษาและแนะนำในเรื่องของการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงให้กับหน่วยงานหลายแห่ง
- สังคมและจริยธรรม: จัดการกิจกรรมและโครงการที่เน้นความยุติธรรมทางการเงินและการศึกษาทางการเงินให้กับประชาชน
- ปรัชญาและอุดมคติ: เน้นถึงความสำคัญของค่ายุภาพ, ความซื่อสัตย์, และการให้บริการที่มีคุณค่าในการลงทุน
การบริจาคและกิจกรรมการกุศลของ John (Jack) Bogle
- การศึกษา: Bogle มักจะย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาและความรู้ อาจจะมีการสนับสนุนโครงการหรือทุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมความรู้และการศึกษา
- ความยุติธรรมทางการเงิน: เขาเคยเสนอแนะและพูดถึงความยุติธรรมทางการเงิน การที่เขาสร้างกองทุนรวมที่มีค่าใช้จ่ายต่ำเป็นหนึ่งวิธีที่เขาช่วยให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น
- การให้คำปรึกษาและการอบรม: โดยทั่วไป Bogle มักจะถูกเชิญเป็นวิทยากรหรือมีการเขียนบทความและหนังสือเพื่อแชร์ความรู้และประสบการณ์ของเขาในด้านการเงินและการลงทุน ซึ่งในทางหนึ่งนั้นเป็นการบริจาคทรัพยากรที่มีคุณค่า
- สนับสนุนองค์กรการกุศลและสังคม: ถึงแม้ข้อมูลที่เจาะลึกไม่จำเพาะเจาะจง แต่จากฐานะและความสนใจของเขาในเรื่องของคุณธรรมและการบริหารจัดการที่ยั่งยืน มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะสนับสนุนองค์กรหรือโครงการที่มีจุดประสงค์ที่ดีและยั่งยืน
- การเป็นแบบอย่างดี: หนึ่งในการบริจาคที่สำคัญที่สุดของ Bogle อาจเป็นการเป็นแบบอย่างดีที่ผู้คนในอุตสาหกรรมการเงินและการลงทุนควรจะเอาเป็นแบบอย่าง
ชื่อเสียง John (Jack) Bogle
John (Jack) Bogle มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ปฏิวัติในอุตสาหกรรมการลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องของกองทุนรวมและการลงทุน Passive ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่เน้นความง่ายและค่าใช้จ่ายที่ต่ำ ผลงานของเขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางและมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการลงทุนมากมาย ดังต่อไปนี้
- ผู้นำด้าน Passive Investing: การสร้าง Vanguard 500 Index Fund มิใช่แค่เป็นกองทุนแทนที่แรก แต่ยังช่วยเผยแพร่ความคิดที่ว่าการลงทุนแบบ Passive สามารถทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นผ่านการลดค่าใช้จ่าย
- นักวิจารณ์และคิดเห็น: Bogle ถูกยกย่องในฐานะหนึ่งในนักวิจารณ์ที่ชัดเจนและมีอิทธิพลของอุตสาหกรรมการลงทุน หนังสือและบทความของเขามักจะเป็นจุดที่สนใจสำหรับนักลงทุนและนักวิจารณ์
- สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และจริยธรรม: เขาถูกเห็นว่าเป็นตัวอย่างของนักธุรกิจที่มีความซื่อสัตย์และคุณธรรม และได้ยกย่องอย่างกว้างขวางเพื่อการประพฤติในแบบนั้น
- ผู้สร้างคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคม: การสร้างกองทุนที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและให้คำปรึกษาการลงทุนที่ดีได้ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกสามารถรักษาและเพิ่มสินทรัพย์ของตนได้ดียิ่งขึ้น
- ผลงานวิจัยและการศึกษา: หลายองค์กรและสถาบันการศึกษาได้ยกย่อง Bogle สำหรับการทำวิจัยและการสร้างความรู้ในด้านการลงทุน
ความสำเร็จ John (Jack) Bogle
John “Jack” Bogle ได้รับความสำเร็จอย่างยิ่งในด้านหลาย ๆ มิติ ดังนี้
- นวัตกรรมในอุตสาหกรรมการเงิน: การสร้าง Vanguard Group และการเริ่มต้น Vanguard 500 Index Fund ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานในอุตสาหกรรมการเงิน ทำให้ลงทุนในตลาดหุ้นสามารถทำได้ง่ายและถูกต้นทุนมากยิ่งขึ้น
- ความซื่อสัตย์และความโปร่งใส: คุณธรรมนี้ได้ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงในอุตสาหกรรม
- การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ: ผ่านการเขียนหนังสือ บทความ และการพูดในสาธารณะ ทำให้ Bogle สามารถสื่อคุณค่าและปรัชญาของเขาให้กับประชาชนได้อย่างมีผล
- สังคมและผลกระทบ: ผลกระทบของเขาไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในการลงทุน แต่ยังขยายออกไปถึงการปรับปรุงสังคมและการศึกษาทางการเงิน
- การประเมินคุณค่าและการจัดการความเสี่ยง: วิธีการและปรัชญาของเขาในการประเมินคุณค่าและจัดการความเสี่ยงได้ถูกยอมรับและใช้ปฏิบัติในวงกว้าง
- รางวัลและเกียรติยศ: ได้รับการยอมรับจากหลายองค์กรและหน่วยงาน ทั้งในด้านการลงทุน การจัดการ และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเขา
- การสร้างระบบ: สร้างระบบที่ทำให้ลูกค้าของ Vanguard ได้รับประโยชน์จากค่าบริการที่ต่ำ คืนผลตอบแทนที่ดี และการจัดการที่เป็นอิสระ
- สิ่งที่เลียนแบบ: หลักการและปรัชญาการลงทุนของเขาได้ถูกนำไปเลียนแบบและปฏิบัติในทั่วโลก
- ภาวะผู้นำและอิทธิพล: ผลงานของเขาได้ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีอิทธิพลมากที่สุดในอุตสาหกรรมการเงิน
- ทัศนคติที่มีผลกระทบ: ทัศนคติและวิถีการคิดของเขาเกี่ยวกับการลงทุน “เป็นคนดี” ได้มีผลกระทบต่อวิถีการลงทุนและปรัชญาการลงทุนของหลายๆ คนและองค์กรในทั่วโลก