Liquidity void เป็นแนวคิดสำคัญในตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของแนวคิดการเทรดแบบ Smart Money Concept (SMC) บทความนี้จะอธิบายว่า liquidity void คืออะไร แตกต่างจาก fair value gap อย่างไร และมีความสำคัญอย่างไรในการเทรด
Liquidity Void คืออะไร?
Liquidity void หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วและรุนแรงระหว่างสองระดับบนแผนภูมิ โดยไม่มีกิจกรรมการซื้อขายแบบค่อยเป็นค่อยไปตามปกติ สิ่งนี้เป็นเวอร์ชันที่ใหญ่กว่าและมีนัยสำคัญมากกว่าของ fair value gap มักจะครอบคลุมหลายแท่งเทียนและแสดงถึงความไม่สมดุลอย่างชัดเจนระหว่างคำสั่งซื้อและขาย
ลักษณะสำคัญของ liquidity void ได้แก่:
- แสดงถึงการปรับราคาของสินทรัพย์อย่างรวดเร็ว มักเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์สำคัญในตลาด
- แสดงถึงช่วงเวลาที่ตลาดขาดความสมดุลชั่วคราวระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
- ปรากฏเป็นการเคลื่อนไหวที่รุนแรงบนแผนภูมิการเทรด
- สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกรอบเวลา แต่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดหลังจากมีข่าวสำคัญ
Liquidity Void vs. Fair Value Gap
แม้ว่า liquidity void และ fair value gap (FVG) จะเป็นแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้:
- ขนาด: Liquidity void มีขนาดใหญ่และมีนัยสำคัญมากกว่า FVG มักครอบคลุมหลายแท่งเทียนและ FVG หลายอัน
- กรอบเวลา: สิ่งที่ปรากฏเป็นชุดของ FVG ในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า อาจถูกตีความเป็น liquidity void ในกรอบเวลาที่สูงกว่า
- ความถี่: FVG เกิดขึ้นบ่อยกว่าและสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกตลาดในแต่ละวัน ในขณะที่ liquidity void มักแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกว่า
ความสำคัญในการเทรด
Liquidity void มีความสำคัญต่อนักเทรดเพราะ:
- แสดงถึงพื้นที่ของความต้านทานน้อย ซึ่งราคาอาจเคลื่อนที่ผ่านได้อย่างรวดเร็ว
- มักจะถูก “เติมเต็ม” หรือมีการซื้อขายย้อนกลับผ่านในอนาคต ทำให้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับการวางคำสั่งซื้อขาย
- สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ทิศทางตลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- ช่วยในการระบุจุดเข้าและออกที่มีศักยภาพสำหรับการเทรด
อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรระมัดระวังในการใช้ liquidity void เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเทรด ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ของตลาด
สรุป
Liquidity void เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ตลาดและระบุโอกาสในการเทรดที่มีศักยภาพ การเข้าใจแนวคิดนี้สามารถช่วยให้นักเทรดมีมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับพลวัตของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคา อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเครื่องมือการเทรดอื่นๆ ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม