Margin call forex คืออะไร
การเกิด Margin call ในตลาดแลกเปลี่ยน (Forex) คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อบัญชีการซื้อขายของคุณมีกำลังจะหมดไปเนื่องจากขาดทุน หรือถูกลิควิด (Leverage) ตั้งแต่ต้นที่คุณใช้ในการเทรดไม่เพียงพอในการประกอบการซื้อขายของคุณต่อไป นี่เป็นเหตุผลที่หลักการทำให้คุณต้องรักษาการเข้ารับมาร์จินอย่างระมัดระวังในการเทรด Forexเมื่อมี Margin call เกิดขึ้นนั้น โบรกเกอร์ของคุณจะทำการแจ้งให้คุณทราบผ่านหน้าจอหรือทางอีเมลหรือ SMS ว่าบัญชีของคุณกำลังเข้าสู่สถานการณ์ Margin call และคุณจะต้องทำอย่างไรในระยะเวลาที่กำหนด ปกติ Margin call จะเกิดขึ้นเมื่อทุนในบัญชีของคุณลดลงไปจนเหลือต่ำกว่าระดับที่จำเป็นต้องรักษาในการเปิดโพซิชันที่คุณมีอยู่
ตัวอย่างมาตรฐานสำหรับระดับ Margin call มักจะอยู่ที่ 100% ของมูลค่าเริ่มต้นในบัญชี นั่นคือถ้าคุณมีเงินในบัญชี 1,000 ดอลลาร์ และเมื่อเริ่มต้นคุณต้องรักษา Margin level ที่ 100% คุณจะต้องรักษาเงินในบัญชีอย่างน้อย 1,000 ดอลลาร์เพื่อป้องกัน Margin call.หาก Margin call เกิดขึ้น คุณจะมีตัวเลือกต่าง ๆ ได้รับการแจ้งเตือน โดยมักจะประกอบด้วยการฝากเงินเพิ่มเข้าสู่บัญชีของคุณ เพื่อเพิ่ม Margin level ของคุณขึ้น หรือปิดโพซิชันที่อาจทำให้คุณสูญเสียเงินเพิ่ม การตัดขาดที่เกิดขึ้นบนบัญชีของคุณจะอาจทำให้คุณสูญเสียเงินในบัญชีและการควบคุมการเทรดของคุณถูกปิดลงอย่างไม่คาดคิด
หากเกิด Margin Call ต้องทำอย่างไร
การจัดการ Margin Call เป็นสิ่งสำคัญในการเทรดในตลาดทุนหรือตลาดอนุพันธ์ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินไม่จำเป็น ดังนั้น, นี่คือขั้นตอนที่ควรทำเมื่อเกิด Margin Call
- ตรวจสอบการแจ้งเตือน: เมื่อคุณได้รับ Margin Call จากโบรกเกอร์ของคุณผ่านทางอีเมลหรือข้อความทางระบบบัญชีของคุณ คุณควรอ่านข้อมูลในการแจ้งเตือนอย่างรอบคอบ เช่น จำนวนเงินที่ต้องเติม, เวลาที่ให้ในการดำเนินการ, และวิธีติดต่อโบรกเกอร์หากคุณมีคำถาม. การทราบรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณทราบถึงความเร่งด่วนและขอบเขตของการดำเนินการที่คุณจะต้องดำเนินการตาม.
- ตรวจสอบบัญชีและโพซิชัน: หลังจากที่คุณได้รับการแจ้งเตือน Margin Call, คุณควรทบทวนบัญชีการเทรดของคุณเพื่อดูว่าโพซิชันใดที่ทำให้เกิด Margin Call และตรวจสอบยอดเงินที่คุณมีในบัญชี. นี่คือขั้นตอนสำคัญเพื่อวางแผนการดำเนินการต่อ.
- ดำเนินการตาม Margin Call:
- ฝากเงินเพิ่ม: หากคุณต้องฝากเงินเพิ่มเพื่อรับมาร์จินเพิ่มในบัญชีของคุณ คุณควรฝากเงินให้เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงในโพซิชันที่คุณเปิดอยู่ ควรตรวจสอบยอดเงินที่ต้องฝากเพิ่มและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุในการแจ้งเตือน Margin Call.
- ปิดโพซิชัน: ถ้าคุณไม่สามารถหรือไม่ต้องการฝากเงินเพิ่ม, คุณสามารถปิดโพซิชันที่มีขาดทุนมากเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในบัญชีของคุณ. ควรปิดโพซิชันที่มีขาดทุนมากที่สุดและคำนึงถึงความสามารถในการรับมาร์จินในโพซิชันที่คงค้าง.
- ติดต่อโบรกเกอร์: หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับ Margin Call หรือการดำเนินการตาม Margin Call คุณควรติดต่อโบรกเกอร์ของคุณโดยใช้ข้อมูลติดต่อที่ให้มาในการแจ้งเตือน โบรกเกอร์จะสามารถให้คำแนะนำและความช่วยเหลือเพิ่มเติม.
ตัวอย่าง Margin call
ตัวอย่างขั้นตอนที่เกิดขึ้นเมื่อมี Margin Call ในบัญชีการเทรดของคุณ การความเข้าใจและการจัดการกับ Margin Call เป็นสิ่งสำคัญในการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน นี่คือตัวอย่างการเกิด Margin Call
- เริ่มต้น: คุณเปิดออเดอร์ในตลาด Forex มูลค่า 10,000 เหรียญ และตั้งค่า Maintenance Margin ที่ระดับที่โบรกเกอร์กำหนดไว้ เช่น 50% ของมูลค่าออเดอร์ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องรักษามาร์จินอย่างน้อย 5,000 เหรียญในบัญชีของคุณ.
- ลดลงในมูลค่าของออเดอร์: ราคาของออเดอร์ที่คุณเปิดลดลงจาก 10,000 เหรียญลงเหลือ 5,000 เหรียญ ซึ่งต่ำกว่าระดับ Maintenance Margin ที่คุณต้องรักษา (5,000 เหรียญ) นั่นหมายความว่าคุณมีมาร์จินน้อยกว่าที่จำเป็นในบัญชีของคุณเพื่อรองรับออเดอร์
- Margin Call: โบรกเกอร์ของคุณจะส่ง Margin Call หรือการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมลหรือข้อความในระบบบัญชีของคุณ แจ้งให้คุณทราบว่าบัญชีของคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ Margin Call และคุณต้องดำเนินการตามเพื่อรักษาบัญชี.
- การดำเนินการตาม Margin Call: คุณมีสองทางเลือก:
- ฝากเงินเพิ่ม: คุณฝากเงินเพิ่มในบัญชีของคุณเพื่อเพิ่มมูลค่ามาร์จิน ในกรณีนี้, คุณจะต้องฝากเงินเพิ่มให้เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงในออเดอร์ที่คุณเปิดอยู่ ในตัวอย่างนี้, คุณอาจต้องฝากเงินอีก 5,000 เหรียญเพื่อเพิ่มมูลค่ามาร์จินให้ครบ 10,000 เหรียญ.
- ปิดโพซิชัน: หากคุณไม่สามารถหรือไม่ต้องการฝากเงินเพิ่ม, คุณสามารถปิดโพซิชันที่มีขาดทุนมากเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในบัญชีของคุณ. คุณสามารถปิดโพซิชันนี้เพื่อป้องกันการถูกปิดออเดอร์อัตโนมิติจากโบรกเกอร์.
stop out forex คืออะไร
“Stop Out” ในตลาดแลกเปลี่ยน (Forex) เป็นระดับของหุ้นทุนในบัญชีการซื้อขายที่บริษัทโบรกเกอร์กำหนดขึ้นเพื่อความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย. เมื่อระดับหุ้นทุนในบัญชีลูกค้าลดลงมาใกล้กับระดับ “Stop Out” ที่โบรกเกอร์กำหนดไว้และมากขึ้นจากนั้น โบรกเกอร์จะทำการปิดออร์เดอร์ (คำสั่งซื้อขาย) ที่มีอยู่ในบัญชีลูกค้าโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้เงินในบัญชีลูกค้าเหลือเหลวและเป็นลบ.
ระดับ “Stop Out” สามารถกำหนดโดยโบรกเกอร์และมักจะอยู่ที่ระดับยาวเมื่อเทียบกับระดับ “Margin Call” ซึ่งเป็นระดับที่บริษัทโบรกเกอร์จะแจ้งเตือนลูกค้าให้เติมเงินในบัญชีเมื่อหุ้นทุนลดลงมาใกล้กับจำนวน “Margin” ที่จำเป็นต้องมีเพื่อรักษาตำแหน่งที่เปิดอยู่ การปิดออร์เดอร์เมื่อถึงระดับ “Stop Out” ทำให้ลูกค้าไม่สามารถรักษาตำแหน่งที่เปิดในกรณีที่หุ้นทุนในบัญชีลดลงมากเกินไป ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันความขาดทุนที่เกินความสามารถในบัญชีของลูกค้าและควบคุมความเสี่ยงในการซื้อขาย Forex
ตัวอย่าง stop out
ตัวอย่างการทำงานของ “Stop Out” ในการซื้อขาย Forex สมมติว่าคุณมีบัญชีการซื้อขาย Forex และคุณฝากเงินเข้าบัญชีไปเป็นจำนวน 1,000 ดอลลาร์ โดยใช้ค่าครึ่งหนึ่ง (50%) ของมูลค่าสัญญาในการเทรดเป็น “Margin” เพื่อเปิดตำแหน่งการซื้อขาย.
- คุณตัดสินใจเปิดตำแหน่งการซื้อขาย EUR/USD ในขนาด 1 ลอต (1 Lot) ที่มีมูลค่า 100,000 ยูโร. ระดับ Margin ที่คุณจำเป็นต้องมีคือ 50,000 ยูโร (100,000 ยูโร x 50%).
- หลังจากเปิดตำแหน่งการซื้อขายนี้, ราคา EUR/USD เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วและบัญชีของคุณลดลงมาเหลือเพียง 600 ดอลลาร์.
- โบรกเกอร์ของคุณกำหนดระดับ “Margin Call” ที่ 100% และระดับ “Stop Out” ที่ 50%.
- เมื่อหุ้นทุนในบัญชีของคุณลดลงมาถึง 50% ของระดับ Margin ที่จำเป็น (50% x 50,000 ยูโร = 25,000 ยูโร) โบรกเกอร์จะทำการปิดออร์เดอร์ EUR/USD ของคุณโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้เงินในบัญชีของคุณเหลือเหลวและเป็นลบ.
- ในกรณีนี้, คุณจะสูญเสียตำแหน่งการซื้อขายและความขาดทุนที่เกิดขึ้นในตลาดจะไม่ส่งผลต่อเงินที่คุณไม่ได้ใช้เป็น Margin ในการเปิดตำแหน่งนี้.
ข้อแตกต่างระหว่าง Margin Call กับ Stop out
- Margin Call:
- เกิดเมื่อ: Margin Call เกิดขึ้นเมื่อมาร์จินในบัญชีการเทรดลดลงมาถึงระดับที่ต่ำกว่าระดับ Initial Margin ที่โบรกเกอร์กำหนดไว้. Initial Margin เป็นระดับมาร์จินที่ต้องมีในบัญชีเพื่อเปิดออเดอร์.
- ผลกระทบ: การเกิด Margin Call จะเป็นการแจ้งเตือนจากโบรกเกอร์ว่าบัญชีของคุณมีความเสี่ยงและคุณต้องดำเนินการเพิ่มมาร์จินหรือปิดโพซิชันเพื่อรักษาบัญชี.
- การแก้ไข: คุณสามารถแก้ไข Margin Call โดยการฝากเงินเพิ่มในบัญชีหรือปิดโพซิชันเพื่อลดมูลค่ามาร์จินที่ต้องใช้ในบัญชี.
- Stop Out:
- เกิดเมื่อ: Stop Out เกิดขึ้นเมื่อมาร์จินในบัญชีการเทรดลดลงมาถึงระดับที่ต่ำกว่าระดับ Stop Out ที่โบรกเกอร์กำหนดไว้ (มักต่ำกว่าระดับ Margin Call).
- ผลกระทบ: เมื่อเกิด Stop Out, โบรกเกอร์จะทำการปิดโพซิชันที่มีค่าติดลบมากที่สุดในบัญชีของคุณอัตโนมัติเพื่อป้องกันความสูญเสียในบัญชี.
- การแก้ไข: คุณสามารถแก้ไข Stop Out โดยการฝากเงินเพิ่มในบัญชีหรือปิดโพซิชันเพื่อลดมูลค่ามาร์จินที่ต้องใช้ในบัญชี.
Margin Call และ Stop Out เป็นส่วนสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในการเทรด โดยช่วยป้องกันความสูญเสียในบัญชีการเทรดของคุณเมื่อมาร์จินลดลงมากเกินไป ความเรียบร้อยในการจัดการ Margin Call และ Stop Out จะช่วยให้คุณเป็นนักเทรดที่มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเทรดในตลาดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ