renko chart คืออะไร
แผนภูมิ Renko chart เป็นชนิดหนึ่งของแผนภูมิราคาทางการเงินที่ใช้ในการแสดงข้อมูลราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางการเงินอย่างไม่ต้องรับรู้เวลา แผนภูมินี้แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาโดยใช้บล็อกหรือแท่ง (bricks) ซึ่งจะถูกวาดขึ้นบนกราฟตามกฎกำหนดที่เรียกว่า “กฎเร็งโก” (Renko bricks) โดยไม่สนใจเวลาที่ราคาเปลี่ยนแปลง แท่ง Renko จะถูกสร้างขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ข้ามบริเวณที่กำหนดไว้ในกฎ มีความเรียบง่ายและช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุแนวโน้มราคาและระดับการสนับสนุนและการต้านได้อย่างชัดเจน
Renko chart มีลักษณะที่สำคัญคือการแสดงราคาเป็นบล็อกหรือก้อนที่มีขนาดเท่ากัน แท่ง Renko จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความสูงและความกว้างเท่ากัน และมีข้อมูลราคาที่แน่นอนเฉพาะกับการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ ค่าของแท่ง Renko จะกำหนดโดยผู้ใช้ตามกฎที่เรียกว่า “กฎเร็งโก” ซึ่งระบุขนาดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่จะทำให้เกิดแท่ง Renko ใหม่ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่ากล่อง Renko ให้มีขนาดเท่ากับ 10 หน่วย และราคาของหลักทรัพย์ขึ้นหรือลงมากกว่า 10 หน่วย แท่ง Renko จะถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงนั้น หากราคาขึ้นขึ้นเกิน 10 หน่วย แท่ง Renko จะเป็นแท่งขาขึ้น และหากราคาลงลงไปต่ำกว่า 10 หน่วย แท่ง Renko จะเป็นแท่งขาลง.
ประวัติข้อมูลของ renko chart
ประวัติของกราฟ Renko เริ่มต้นจากการสร้างแผนภูมิแบบก้อนอิฐก่อนหลายร้อยปีในประเทศญี่ปุ่น นักธุรกิจที่เป็นผู้ค้าข้าวในยุคนั้นพบว่าการบันทึกทุกความเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบที่ละเอียดมากสำหรับสินค้าของตนเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและไม่จำเป็น ดังนั้นพวกเขาจึงพัฒนาระบบใหม่ที่สามารถบันทึกเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของราคา โดยใช้กฎเร็งโก (Renko bricks) แทนระบบนี้ช่วยประหยัดเวลา กระดาษ และหมึกในการบันทึกข้อมูลราคา.
คำว่า “Renko” มาจากภาษาญี่ปุ่นและมีความหมายทั้ง “ก้อนอิฐ” และ “เส้นทางที่เงียบสงบ” ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะของแผนภูมิ Renko ที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ราบรื่นและไม่มีราคาระหว่างแท่งที่ไม่มีนัยสำคัญที่ชัดเจน. ในปัจจุบัน แผนภูมิ Renko ได้รับการสร้างขึ้นในโหมดอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีดิจิทัล และยังคงเป็นเครื่องมือที่นิยมในการวิเคราะห์การซื้อขายและการลงทุนในตลาดทางการเงิน โดยมีการกล่าวถึง Renko ครั้งแรกในวงการการเงินมาจากหนังสือ “Beyond Candlesticks” ของผู้เขียนชื่อ Steve Nison ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงินที่ระดับโลกและมีชื่อเสียงอย่างมากในวงการ
renko chart ดูอย่างไร
Renko chart เป็นแผนภูมิที่มีลักษณะเฉพาะและที่น่าสนใจในการแสดงข้อมูลราคา แต่ต่างจากแผนภูมิแท่งเทียน (candlestick) หรือแผนภูมิแท่งกราฟ (bar chart) ที่ใช้เวลาเป็นตัววัด แทนที่จะใช้เวลา Renko chart จะสร้างแท่งโดยอิงจากการเปลี่ยนแปลงของราคา ดังนั้นแท่ง Renko จะไม่มีเวลาแก่กัน และมีรูปแบบเป็นกล่องหรือแท่งเร็งโก ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงข้ามกล่อง (box) ที่คุณตั้งค่าไว้ การอ่าน Renko chart มีกลยุทธ์แบบพื้นฐานดังนี้
- แท่งขาขึ้น (เขียว): ถ้าแท่ง Renko เป็นแท่งขาขึ้น (มีราคาปิดสูงกว่าแท่งก่อนหน้า) แท่งนั้นจะเป็นสีเขียว. แท่งขาขึ้นแสดงว่าราคากำลังขึ้นและเป็นสัญญาณบางครั้งที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อ.
- แท่งขาลง (แดง): ถ้าแท่ง Renko เป็นแท่งขาลง (มีราคาปิดต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า) แท่งนั้นจะเป็นสีแดง. แท่งขาลงแสดงว่าราคากำลังลงและเป็นสัญญาณบางครั้งที่ช่วยในการตัดสินใจขาย.
- สัญญาณซื้อขาย: เช่นตัวอย่างที่ให้ไว้ หากคุณเห็นแท่งขาขึ้น (เขียว) ตามด้วยแท่งเขียวอีกหนึ่งแท่ง อาจเป็นสัญญาณซื้อ เนื่องจากเป็นการยืนยันว่าราคากำลังขึ้น. แต่ควรใช้กับการวิเคราะห์อื่น ๆ และอินดิเคเตอร์เพิ่มเติมเพื่อทำการตัดสินใจการซื้อขาย.
- การกำหนดขนาด Renko: คุณสามารถกำหนดขนาดของแท่ง Renko โดยใช้ตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น Average True Range (ATR) เพื่อช่วยให้แผนภูมิเข้ากับความเผื่อเป็นความเร็วหรือช่วงการเคลื่อนไหวในตลาด Forex โดยทั่วไป.
วิธีการใช้ renko chart ในตลาด forex
การใช้ Renko chart ในตลาด Forex เป็นวิธีที่น่าสนใจในการวิเคราะห์และการซื้อขาย เนื่องจากช่วยให้นักซื้อขายเห็นแนวโน้มราคาและสัญญาณการเข้าและออกจากตลาดได้อย่างชัดเจน ต่อไปนี้คือวิธีการใช้ Renko chart ในตลาด Forex:
- ตั้งค่า Renko chart: เริ่มต้นโดยการเปิดกราฟ Renko ในแพลตฟอร์มการซื้อขาย Forex ที่คุณใช้ คุณจะต้องกำหนดค่าของกล่อง Renko หรือ “Renko box size” ซึ่งระบุขนาดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่จะสร้างแท่ง Renko ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณตั้งค่า Renko box size เป็น 10 จะหมายถึงแท่ง Renko จะถูกสร้างขึ้นเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงข้ามกล่อง 10 หน่วย.
- การวิเคราะห์แนวโน้ม: Renko chart ช่วยให้คุณเห็นแนวโน้มของราคาอย่างชัดเจน หากแท่ง Renko มีลักษณะเป็นแท่งขาขึ้น (บวก) แสดงว่าราคากำลังขึ้น และหากมีลักษณะเป็นแท่งขาลง (ลบ) แสดงว่าราคากำลังลดลง.
- ระดับการสนับสนุนและการต้าน: คุณสามารถใช้ Renko chart เพื่อระบุระดับการสนับสนุนและการต้าน โดยการดูที่แท่ง Renko ที่เปลี่ยนแปลงจากบวกเป็นลบและกลับ หากแท่ง Renko บวกหยุดและเปลี่ยนเป็นแท่งลบ แสดงว่าราคาอาจจะพุ่งลงและระดับนี้เป็นระดับการต้าน และกลับกัน.
- การสร้างสัญญาณการเข้าและออก: คุณสามารถใช้ Renko chart เพื่อสร้างสัญญาณการซื้อขาย เช่น การเข้าที่เมื่อแท่ง Renko มีลักษณะเป็นแท่งขาขึ้นและราคาข้ามข้างบนขอบสูงสุดของแท่ง Renko ก่อนหน้า. สัญญาณการออกจากตลาดอาจเกิดขึ้นเมื่อราคาข้ามลงข้างล่างขอบต่ำสุดของแท่ง Renko ก่อนหน้า.
- การบันทึกและการจัดการกับความเสี่ยง: ไมืลืมที่จะจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เช่น การใช้ Stop Loss และ Take Profit เพื่อระบุระดับการกำกับการสูญเสียและกำไร.
- การฝึกฝนและทดลอง: ก่อนที่คุณจะใช้ Renko chart ในการซื้อขายแบบจริง ควรฝึกฝนและทดลองในบัญชีซื้อขายที่ไม่มีความเสี่ยงก่อน เพื่อให้คุณเข้าใจและมั่นใจในการใช้งาน Renko chart.
ข้อดีของ renko chart
Renko chart เป็นเครื่องมือที่มีความเรียบง่ายและมีประโยชน์ในการวิเคราะห์และการซื้อขาย และมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์สำหรับนักซื้อขายในการตัดสินใจการซื้อขาย
- อ่านง่าย: Renko chart มีโครงสร้างง่ายและชัดเจน โดยแท่ง Renko ถูกสร้างขึ้นเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงข้ามกล่องที่คุณกำหนด ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องข้อมูลเวลา และสามารถระบุแนวโน้มของราคาอย่างชัดเจน.
- ลดสัญญาณรบกวนของตลาด: Renko chart ช่วยลดสัญญาณรบกวนที่ไม่จำเป็นในการวิเคราะห์และการซื้อขาย เนื่องจากแท่ง Renko จะเปลี่ยนรูปแบบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาที่สำคัญเท่านั้น ซึ่งช่วยให้คุณมีสัญญาณที่มีคุณภาพมากกว่าและลดสัญญาณเท็จ.
- ตัวชี้วัดและ EA สามารถทำงานได้ดีขึ้นกับ Renko: โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ Renko chart ตัวชี้วัดและ Expert Advisors (EA) สามารถทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากข้อมูลราคาที่ชัดเจนและมีโครงสร้างง่าย.
- ระบุรูปแบบการกลับตัว: Renko chart ช่วยในการระบุรูปแบบการกลับตัวของตลาดได้อย่างชัดเจน เช่น รูปแบบหัวไหล่ หรือ ท็อปสามเหลี่ยม ที่อาจจะช่วยในการตัดสินใจการซื้อขาย.
- ปรับความสามารถให้เข้ากับ Day/Swing Trade: คุณสามารถปรับค่า Renko box size เพื่อให้เหมาะกับการซื้อขายแบบ Day trading หรือ Swing trading ได้อย่างยืดหยุ่น สามารถใช้ Renko ในหลายรูปแบบการซื้อขายได้.
- ระบุแนวรูปแบบการต่อเนื่องของกราฟได้ง่ายกว่า: Renko chart ช่วยในการระบุแนวรูปแบบการต่อเนื่องของกราฟได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีข้อมูลราคาที่ไม่จำเป็น ทำให้คุณสามารถระบุแนวโน้มในการซื้อขายได้อย่างสะดวก.
ข้อเสียของ renko chart
Renko chart เป็นเครื่องมือที่มีข้อดีและข้อเสีย คุณควรพิจารณาข้อเสียเหล่านี้เมื่อใช้ Renko chart ในการวิเคราะห์และการซื้อขายในตลาด Forex และการฝึกใช้งานให้ดีก่อนนำมันมาใช้ในการซื้อขายจริง นี่คือข้อเสียของ Renko chart
- การสร้างกราฟช้า: การสร้างแท่ง Renko อาจใช้เวลานานกว่าเวลาจริงเนื่องจากมันต้องการการเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญ เหตุนี้อาจทำให้คุณรอคอยและไม่เหมาะสำหรับนักซื้อขายที่ต้องการดำเนินการเร็ว.
- ขนาดแท่ง Renko สามารถมีผลในการเข้าขาออกของสัญญาณ: ขนาดของแท่ง Renko สามารถมีผลในการเข้าขาออกของสัญญาณการซื้อขาย เมื่อก้อนอิฐมีขนาดเล็ก คุณจะสามารถมองเห็นการกลับตัวได้เร็วขึ้น แต่ระดับการกำกับสัญญาณอาจมีการกรองสัญญาณรบกวนให้น้อยลง ทำให้คุณอาจพลาดรับสัญญาณสำคัญ.
- มีก้อนอิฐจำนวนมากในช่วงเทรนด์เดียวกัน: ในช่วงเทรนด์แน่นอน ก้อนอิฐอาจวิ่งไปในทิศทางเดียว ซึ่งอาจทำให้การเข้าขาออกของคุณไม่แม่นยำอย่างที่คุณต้องการ นี่อาจจะเป็นความหายนะของ Renko chart ในการติดตามแนวโน้มเทรนด์ยากขึ้นในช่วงเทรนด์แน่นอน.