Sell Stop คืออะไร มีขั้นตอนการส่งคำสั่งอย่างไร ใน MT4 MT5

Sell Stop คืออะไร

คำสั่ง “Sell Stop” เป็นคำสั่งในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ทางการเงินในตลาดการเงิน โดยมักใช้ในการซื้อขายหุ้น, สินค้า, หรือสกุลเงินในหลายแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ เช่น MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) และหลายแพลตฟอร์มอื่นๆ โดย คำสั่ง “Sell Stop” ใช้ในสถานการณ์ที่คุณต้องการเปิดตำแหน่งขาย (short position) ในราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันของตลาด แต่คุณต้องการรอให้ราคาลงมาถึงราคาที่คุณตั้งไว้ก่อนที่คำสั่งจะทำงาน. นี่คือการใช้คำสั่ง “Sell Stop” ในแนวคิดของการกำหนดราคาที่คุณต้องการขายล่วงหน้าเมื่อราคาลงมาถึงราคานั้น และคำสั่งจะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อราคาตัวปัจจุบันลงมาถึงราคาที่คุณตั้งไว้

ขั้นตอนการใช้ Sell Stop บน MT4 MT5

การใช้คำสั่ง “Sell Stop” ในโปรแกรม MetaTrader แบบทั่วไปที่ถูกต้อง ดังนั้นคุณสามารถทำการเปิดออร์เดอร์ “Sell Stop” ในโปรแกรม MetaTrader ตามขั้นตอนดังนี้

1. คลิกขวาที่กราฟราคาของคู่เงินที่คุณต้องการตั้งคำสั่ง “Sell Stop”:
   • เมื่อคุณคลิกขวาที่กราฟราคา, จะปรากฏเมนูที่มีตัวเลือกต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสร้างคำสั่งการเทรด.
2. เลือก “Trading” จากเมนูที่ปรากฏขึ้น:
   • การคลิกที่ “Trading” จะเปิดเมนูที่มีคำสั่งการเทรดและการจัดการการเทรด.
3. ในหน้าต่าง “New Order,” เลือก “Pending Order”:
   • หลังจากคลิก “Trading,” คุณจะเห็นหน้าต่าง “New Order” ที่ใช้สำหรับการสร้างคำสั่งการเทรด ในส่วน “Type,” คุณต้องเลือก “Pending Order” เนื่องจากคำสั่ง “Sell Stop” เป็นคำสั่งการสร้างคำสั่งในอนาคต.
4. ในส่วน “Type” ต่อมา, เลือก “Sell Stop”:
   • หลังจากเลือก “Pending Order,” คุณจะมีตัวเลือกในการเลือกประเภทของคำสั่งการสร้างคำสั่ง ในกรณีนี้, เลือก “Sell Stop” เพื่อระบุว่าคุณต้องการสร้างคำสั่ง “Sell Stop.”
5. กรอกปริมาณหรือจำนวนสัญญาหรือหุ้นที่คุณต้องการทำการขายในช่อง “Volume”:
   • ในช่องนี้, คุณควรระบุจำนวนหุ้นหรือสัญญาที่คุณต้องการทำการขายในคำสั่ง “Sell Stop.”
6. ระบุราคาที่คุณต้องการให้คำสั่ง “Sell Stop” ทำงานที่นั่นในช่อง “Price”:
   • ในช่องนี้, คุณควรระบุราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันของตลาดที่คุณต้องการให้คำสั่ง “Sell Stop” ทำงาน.
7. (ตัวเลือก) หากคุณต้องการกำหนดระดับ Stop Loss หรือ Take Profit, กรอกค่าในช่อง “Stop Loss” และ “Take Profit”:
   • นี่คือระดับที่คุณสามารถระบุได้เพื่อกำหนดระดับ Stop Loss และ Take Profit ให้คำสั่ง “Sell Stop.” หากคุณไม่ต้องการใช้งานระดับเหล่านี้ในคำสั่งของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องกรอก.
8. เมื่อคุณได้ทำการตั้งค่าทุกอย่างตามที่คุณต้องการ, ให้คลิก “Place” เพื่อสร้างคำสั่ง “Sell Stop”:
   • เมื่อคุณคลิก “Place,” คำสั่ง “Sell Stop” ของคุณจะถูกส่งไปยังตลาด และเมื่อราคาลงมาถึงราคาที่คุณตั้งไว้ในคำสั่ง, ระบบจะทำการเปิดตำแหน่งขายให้คุณโดยอัตโนมัติ และคุณจะสามารถดูและจัดการตำแหน่งขายของคุณต่อไปได้.

ขั้นตอนการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยน Sell Stop บน MT4 MT5

การปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกคำสั่ง “Sell Stop” ใน MetaTrader เป็นวิธีที่สำคัญในการจัดการตำแหน่งการเทรดของคุณเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการเทรดและสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน โดยขั้นตอนที่คุณระบุเพื่อยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนคำสั่ง “Sell Stop” ในโปรแกรม MetaTrader คือการทำตามนี้

1. คลิกขวาที่คำสั่ง “Sell Stop” ที่ต้องการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยน:
   • ในหน้าต่าง “Terminal” ด้านล่างของโปรแกรม MetaTrader, คุณจะเห็นรายการคำสั่งการเทรดที่คุณเปิดอยู่. คลิกขวาที่คำสั่ง “Sell Stop” ที่คุณต้องการปรับเปลี่ยนหรือยกเลิก.
2. กดที่เมนู “Modify or Delete”:
   • เมื่อคุณคลิกขวาที่คำสั่ง “Sell Stop,” จะปรากฏเมนูที่มีตัวเลือก “Modify or Delete” ให้คุณเลือก.
3. ปรับเปลี่ยนคำสั่ง “Sell Stop” ได้ที่ช่อง “Price,” ปรับเปลี่ยนระดับ Stop Loss หรือ Take Profit ได้ที่ช่องของมัน แล้วกด “Modify”:
   • หลังจากคลิกที่ “Modify or Delete,” คุณสามารถแก้ไขราคาที่คำสั่ง “Sell Stop” จะทำงานที่นั่นได้ในช่อง “Price.” คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนระดับ Stop Loss และ Take Profit โดยการกรอกค่าในช่องที่เกี่ยวข้อง หากคุณไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงระดับ Stop Loss หรือ Take Profit, คุณสามารถไม่กรอกค่าในช่องนั้นก็ได้. เมื่อคุณเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ, คลิกที่ “Modify” เพื่อยืนยันการปรับเปลี่ยน.
4. หากต้องการยกเลิกคำสั่ง “Sell Stop,” ให้คลิกที่ “Delete”:
   • หากคุณต้องการยกเลิกคำสั่ง “Sell Stop” โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนใดๆ, คลิกที่ “Delete” ในเมนู “Modify or Delete” เพื่อยืนยันการยกเลิก.

ตัวอย่างการใช้ Sell Stop

สมมุติว่าคุณกำลังติดตามคู่สกุลเงิน EUR/USD และคุณเห็นว่าราคาปัจจุบันของ EUR/USD คือ 1.1200. คุณมีความเชื่อว่าหากราคาลงมาถึงระดับ 1.1150, มันจะเป็นโอกาสที่ดีในการเปิดตำแหน่งขาย เพื่อกำไรจากการลงของราคา EUR/USD ตามคาดการณ์ของคุณ ดังนั้น, คุณใช้คำสั่ง “Sell Stop” โดยตั้งค่าดังนี้:

• • Type: เลือก “Pending Order” เนื่องจากคุณต้องการตั้งคำสั่งล่วงหน้า.
  • Type: เลือก “Sell Stop” เพื่อระบุว่าคุณต้องการเปิดตำแหน่งขายเมื่อราคาลงมาถึงราคาที่คุณตั้งไว้.
  • Volume: ระบุจำนวนสัญญาหรือหุ้นที่คุณต้องการขาย เช่น 1 ล็อต.
  • Price: ระบุราคาที่คุณต้องการให้คำสั่ง “Sell Stop” ทำงานที่นั่น ในที่นี้คือ 1.1150.
  • Stop Loss (ตัวเลือก): หากต้องการกำหนดระดับ Stop Loss, คุณสามารถระบุระดับนั้นในช่อง “Stop Loss” เพื่อความปลอดภัยหากตลาดเคลื่อนที่ในทิศทางที่ไม่พอใจ.
  • Take Profit (ตัวเลือก): หากต้องการกำหนดระดับ Take Profit, คุณสามารถระบุระดับนั้นในช่อง “Take Profit” เพื่อกำหนดจุดที่คุณต้องการทำกำไร.

เมื่อคุณได้ตั้งค่าคำสั่ง “Sell Stop” ดังกล่าว และราคา EUR/USD ลงมาถึงราคา 1.1150 ในอนาคต คำสั่งจะทำงานโดยอัตโนมัติและเปิดตำแหน่งขายในราคา 1.1150 ให้คุณ และคุณสามารถดูแลและจัดการตำแหน่งขายนี้ตามสภาวะตลาดในภายหลังเพื่อทำกำไรหรือจัดการความเสี่ยงตามต้องการของคุณ

Sell Stop ใช้ตอนไหนดี

การใช้คำสั่ง “Sell Stop” นั้นเกิดขึ้นตามแนวคิดของการวิเคราะห์ตลาดและคาดการณ์ที่คุณมีต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต. คำสั่ง “Sell Stop” มักถูกใช้เมื่อคุณเชื่อว่าราคาจะลงล่างไปจากราคาปัจจุบันและคุณต้องการเปิดตำแหน่งขาย (short position) เมื่อราคาลงมาถึงระดับที่คุณตั้งไว้ ดังนั้นคำตอบของคำถาม “ตั้งไว้ตรงไหนดี” จะขึ้นอยู่กับแผนการเทรดและวิเคราะห์ของคุณเอง. นี่คือตัวอย่างของวิธีการใช้ “Sell Stop” ในบางสถานการณ์:

1. ตั้ง Sell Stop ใต้แนวรับ 100 จุด:
   • หากคุณเห็นว่าราคากำลังเคลื่อนขึ้นและมีแนวรับที่ราคาน่าจะเกิดการเสถียรภาพหรือเปลี่ยนเป็นแนวต้าน คุณอาจตั้งคำสั่ง “Sell Stop” ใต้ระดับนี้ 100 จุดหรือใดๆ ก็ตามที่คุณพิจารณาว่าราคาจะเคลื่อนลงมา.
2. ตั้ง Sell Stop ตามเส้น Fibonacci Retracement 100 จุด:
   • การใช้เส้น Fibonacci Retracement เป็นวิธีที่พบบ่อยในการระบุระดับที่เหมาะสมสำหรับคำสั่ง “Sell Stop.” คุณสามารถตั้งคำสั่งที่ระดับ Fibonacci Retracement ที่คุณคำนวณและเชื่อว่ามันเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับการเปิดตำแหน่งขาย.
3. ตั้ง Sell Stop ตามเส้น Simple Moving Average 20 Days:
   • การใช้เส้นเครื่องหมายเป็นวิธีอื่นที่คนนักเทรดบางคนนิยมใช้ เช่น Simple Moving Average (SMA) 20 Days เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่แสดงราคาเฉลี่ยของ 20 วัน หากราคาข้ามลงมาจากเส้น SMA 20 Days คุณอาจพิจารณาที่จะตั้งคำสั่ง “Sell Stop” เมื่อราคาลงมาที่เส้นนี้.