ZigZag indicator คืออะไร วิธีวิเคราะห์ การใช้งาน

ZigZag indicator คืออะไร

เครื่องมือ Zigzag indicator เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคาในการศึกษาแนวโน้มของตลาดในการซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ อีกด้วย ตัวชี้วัดนี้ช่วยให้นักลงทุนและผู้ซื้อขายสามารถระบุแนวโน้มของตลาดที่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้โดยใช้การวาดเส้นระดับราคาแบบเส้นหรือขีดลูกโซ่ (zigzag lines) บนกราฟราคา

ZigZag indicator คืออะไร วิธีวิเคราะห์ การใช้งาน และประวัติความเป็นมา ZigZag
ZigZag indicator คืออะไร วิธีวิเคราะห์ การใช้งาน และประวัติความเป็นมา ZigZag

Zigzag indicator มักใช้ในการกรองเสียงรบกวนในกราฟราคาที่ซับซ้อนและสั้น ๆ เพื่อช่วยให้นักลงทุนเห็นแนวโน้มหลักของตลาดได้ง่ายขึ้น โดยราคาที่เครื่องมือนี้จะแสดงบนกราฟจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างสูงสุดและต่ำสุดของราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อราคาเปลี่ยนทิศทางและผ่านส่วนสูงสุดหรือต่ำสุดใหม่ ตัวชี้วัดจะเริ่มวาดเส้นใหม่ การเคลื่อนไหวของเส้นราคาใน Zigzag indicator สามารถช่วยให้นักลงทุนรับรู้การเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของตลาดและจัดทำคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้ดีขึ้น

ประวัติความเป็นมาของ Zigzag indicator

Zigzag Indicator เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่สร้างขึ้นมาในวงค์สากลของการซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์ในตลาดทุนและอนุพันธ์ ซึ่งเครื่องมือนี้ถูกออกแบบเพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและให้นักลงทุนมองเห็นแนวโน้มของตลาดได้ง่ายขึ้น ตัวชี้วัด Zigzag Indicator ทำงานโดยระบุแรงเสียดทานหรือการเปลี่ยนแปลงของราคาที่สำคัญและการลดราคาที่ไม่สำคัญออกไป เพื่อสร้างกราฟเส้นที่ทรงคลื่นแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะเวลาที่กำหนด.

ความเป็นมาของ Zigzag indicator
ความเป็นมาของ Zigzag indicator

นี่คือประวัติความเป็นมาของ Zigzag Indicator:

  1. คราวแรกของ Zigzag Indicator: Zigzag Indicator ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1930s โดย Ralph Nelson Elliott ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์และนักวิจัยด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีชื่อเสียงในสต็อกและตลาดอนุพันธ์ ในหนังสือของเขา “The Wave Principle” ที่เขาเผยแพร่ในปี 1938 และงานวิจัยอื่น ๆ เขาได้นำเสนอกราฟที่ใช้การสร้างเส้น Zigzag เพื่อแสดงแนวโน้มของราคาในตลาด แม้ว่า Zigzag Indicator แรกๆ นี้จะใช้งานในรูปแบบเครื่องคิดเลขและมีข้อจำกัดในการคำนวณ แต่หลังจากนั้น มีการพัฒนาเครื่องมือทางเทคนิคที่ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
  2. การพัฒนาและการใช้งานในระบบซอฟต์แวร์: Zigzag Indicator ได้รับความนิยมในวงการการลงทุนและการวิเคราะห์ทางเทคนิค และได้รับการนำเสนอในหลายๆ ระบบซอฟต์แวร์การซื้อขายและการวิเคราะห์กราฟ นักลงทุนสามารถใช้ Zigzag Indicator ในการตรวจสอบแนวโน้มของตลาด การระบุระดับราคาสนับสนุนและราคาต้านทาน และการลดราคาที่ไม่สำคัญออกไปเพื่อให้การวิเคราะห์ราคาเป็นไปอย่างเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ.
  3. การใช้งานในการวิเคราะห์ตลาด: Zigzag Indicator เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการวิเคราะห์ตลาดในการศึกษาแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยมักใช้ร่วมกับเครื่องมือและวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อปรับสมดุลและเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างละเอียด.

วิธีการใช้ Zigzag indicator

การใช้ Zigzag Indicator เป็นการวิเคราะห์ราคาที่มีความเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ในรูปแบบของกราฟ โดย Zigzag Indicator ช่วยให้นักลงทุนสามารถจำแนกและติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาที่สำคัญได้ง่ายขึ้น ดังนั้น นี่คือวิธีการใช้ Zigzag Indicator:

วิธีการใช้ Zigzag indicator
วิธีการใช้ Zigzag indicator
  1. ตั้งค่า Zigzag Indicator: เริ่มต้นโดยตั้งค่า Zigzag Indicator ในโปรแกรมหรือแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ ค่าตั้งค่าสำคัญสามค่าหลักคือ Depth, Deviation, และ Backstep ซึ่งคุณสามารถปรับให้เหมาะกับการวิเคราะห์ของคุณ. ค่าเริ่มต้นที่ใช้งานมากที่สุดคือ Depth เป็น 10% นั่นหมายถึง Zigzag จะไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาที่เป็นของส่วนต่ำกว่า 10% จากราคาสูงสุดหรือต่ำสุด คุณสามารถปรับค่าต่าง ๆ ตามความต้องการของคุณ.
  2. ระบุแนวโน้ม: สังเกตเส้น Zigzag Indicator เพื่อระบุแนวโน้มของราคา ถ้าเส้น Zigzag ขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ นักลงทุนสามารถดูว่ามีแนวโน้มขาขึ้น และถ้าเส้น Zigzag ขยับลงมาเรื่อย ๆ นักลงทุนสามารถดูว่ามีแนวโน้มขาลง การระบุแนวโน้มเป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้ Zigzag Indicator.
  3. ระบุระดับสนับสนุนและต้านทาน: นอกจากระบุแนวโน้ม นักลงทุนสามารถใช้ Zigzag Indicator เพื่อระบุระดับราคาสนับสนุนและราคาต้านทาน โดยส่วนมาก Zigzag Indicator จะวาดเส้นระหว่างระดับสูงสุดและระดับต่ำสุดของราคา ถ้าราคาเข้าใกล้ระดับเหล่านี้ นักลงทุนสามารถระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อดูสัญญาณการซื้อขายที่เป็นไปได้.
  4. วิเคราะห์รูปแบบราคา: Zigzag Indicator ยังสามารถใช้ในการระบุรูปแบบราคาที่สำคัญ เช่น แนวโน้มหรือรูปแบบการกลับกัน นักลงทุนสามารถใช้เส้น Zigzag เพื่อสร้างการวิเคราะห์ราคาที่ละเอียดมากขึ้น.
  5. ตรวจสอบสัญญาณการซื้อขาย: นอกจากการใช้ Zigzag Indicator เพื่อวิเคราะห์ นักลงทุนควรตรวจสอบสัญญาณการซื้อขายที่เกิดขึ้นจากการสร้างเส้น Zigzag โดยการเปรียบเทียบกับสัญญาณอื่น ๆ และใช้เครื่องมือและการวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของสัญญาณนั้น.
  6. การคำนวณข้อมูล: Zigzag Indicator คำนวณโดยใช้ราคาสูงสุดและต่ำสุดของราคา สามารถคำนวณได้ดังนี้:
    • HL (High-Low): คำนวณค่าสำหรับการเคลื่อนไหวราคาสูงสุดและต่ำสุด.
    • % การเปลี่ยนแปลง (% Change): คำนวณเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคาจากค่า HL.
    • Retrace: คำนวณการย้อนกลับของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า, เปลี่ยนการย้อนกลับของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า, หรือการเปลี่ยนแปลงแบบสัมบูรณ์จากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด.
    • LastExtreme: อ้างอิงไปยังราคาสูงสุดหรือต่ำสุดที่เป็นสำคัญ, หากราคาเท่ากันในช่วงเวลาหลาย ๆ ช่วง.

การตั้งค่า indicator zigzag ใน MT4

การตั้งค่าตัวบ่งชี้ ZigZag ใน MetaTrader 4 (MT4) เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อปรับแต่งการใช้งานของ Indicator ตามความต้องการของคุณในการวิเคราะห์แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด ดังนั้นนี่คือวิธีการตั้งค่า ZigZag Indicator ใน MT4:

การตั้งค่า indicator zigzag ใน MT4
การตั้งค่า indicator zigzag ใน MT4
  1. เปิดโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4): เริ่มต้นด้วยการเปิดโปรแกรม MT4 บนคอมพิวเตอร์ของคุณ.
  2. เลือกชาร์ตที่ต้องการ: เลือกชาร์ตของคู่เงินหรือสินทรัพย์ที่คุณต้องการที่จะใช้ตัวบ่งชี้ ZigZag บน. คุณสามารถเปิดชาร์ตโดยการคลิกคู่เงินหรือสินทรัพย์ในหน้า “Market Watch” แล้วลากไปวางลงในช่องชาร์ต.
  3. เพิ่ม ZigZag Indicator: หลังจากเลือกชาร์ต, คลิกที่เมนู “Insert” ด้านบนของโปรแกรม MT4.
  4. เลือก Indicator: เลื่อนเมาส์ลงมาและคลิกที่ “Indicators,” จากนั้นเลือก “Custom” แล้วเลือก “ZigZag” จากรายการที่ปรากฏขึ้น.
  5. ตั้งค่า ZigZag Indicator: เมื่อคุณคลิก “ZigZag,” หน้าต่างการตั้งค่า ZigZag Indicator จะปรากฏขึ้น. คุณสามารถปรับแต่งตัวบ่งชี้ตามความต้องการ:
    • Depth (ความลึก): คือจำนวนแท่งเทียนที่ระบบจะดูย้อนกลับเพื่อค้นหาสุดฮายหรือล่าสุด. ค่าที่มากขึ้นจะทำให้ ZigZag ทำงานละเอียดมากขึ้น ในขณะที่ค่าที่ต่ำกว่าจะทำให้เกิดสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์มากขึ้น.
    • Deviation (การเบี่ยงเบน): คืออัตราเปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ต้องเกิดขึ้นเพื่อสร้างสุดฮายหรือล่าสุดใหม่.
    • Backstep (การถอยหลัง): คือจำนวนแท่งเทียนต่ำสุดระหว่างสุดฮายหรือล่าสุด.
  6. ยืนยันการตั้งค่า: หลังจากปรับค่าตามที่ต้องการ, คลิก “OK” เพื่อยืนยันการตั้งค่า ZigZag Indicator.
  7. การใช้งาน ZigZag Indicator: ZigZag Indicator จะปรากฏบนชาร์ตของคู่เงินหรือสินทรัพย์ที่คุณเลือก และสามารถใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด.

ข้อดีข้อเสียของ Zigzag Indicator

ข้อดีและข้อเสียของ Zigzag Indicator อธิบายได้ดังนี้:

ข้อดีข้อเสียของ Zigzag Indicator
ข้อดีข้อเสียของ Zigzag Indicator

ข้อดีของ Zigzag Indicator:

  1. ช่วยระบุแนวโน้มราคา: Zigzag Indicator มีความสามารถในการช่วยระบุแนวโน้มราคาในช่วงเวลาที่เลือกได้ดี โดยเฉพาะหากมีการสวิงสูงและสวิงต่ำที่ชัดเจนในการเคลื่อนไหวของราคา.
  2. จุดตามสัญญาณการกลับตัว: Zigzag Indicator มีความสามารถในการระบุจุดที่ราคามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง โดยมองไปยังจุดสูงสุด (peaks) และจุดต่ำสุด (troughs) ในกราฟราคา.
  3. การระบุระดับการสนับสนุนและการต้านทาน: Zigzag Indicator สามารถช่วยในการระบุระดับการสนับสนุนและการต้านทาน โดยใช้จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่เส้น Zigzag ระบุ.
  4. ระบุรูปแบบการซื้อขาย: นอกจากการระบุแนวโน้ม ตัวบ่งชี้ Zigzag ยังสามารถช่วยในการระบุรูปแบบการซื้อขายทางเทคนิค เช่น รูปแบบ Double Top, Double Bottom, Head and Shoulders, และอื่น ๆ ซึ่งสามารถใช้ในการวางแผนการซื้อขาย.
  5. ฟิลเตอร์สัญญาณซ้อนทับ: Zigzag Indicator สามารถใช้เป็นฟิลเตอร์เพื่อลดลงสัญญาณการซื้อขายที่อาจเกิดจากสัญญาณซ้อนทับหรือสัญญาณที่ไม่แน่นอน ซึ่งช่วยในการปรับปรุงคุณภาพของการวิเคราะห์ของคุณ.

ข้อเสียของ Zigzag Indicator:

  1. การเปลี่ยนแปลงแบบ retrospective: Zigzag Indicator มีข้อจำกัดในการดำเนินการแบบ retrospective หรือย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่ามันจะคำนวณและเปลี่ยนแปลงเส้นตามการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต ข้อมูลนี้ไม่สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวในอนาคต ซึ่งจำกัดความสามารถในการทำนายแนวโน้มของราคา.
  2. ไม่ให้สัญญาณซื้อขายแน่นอน: Zigzag Indicator มีหน้าที่หลักในการระบุแนวโน้มและระดับสนับสนุนต้านทาน แต่มันไม่ให้สัญญาณซื้อขายโดยตรง นักลงทุนจำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจในการเปิดหรือปิดตำแหน่ง.
  3. ไม่สามารถทำงานได้ดีในตลาดที่ไม่มีแนวโน้ม: Zigzag Indicator ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มเป็นชัด ในขณะที่ตลาดที่มีการซื้อขายแนวราบ อาจทำให้ Zigzag ให้ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนและสัญญาณที่ไม่ชัดเจน.